xs
xsm
sm
md
lg

CPNผุด3บิ๊กมิกซ์ยูส “อยุธยา-ศรีราชา-จันทบุรี” เริ่มเปิดสิ้นปีนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เซ็นทรัลพัฒนา” เตรียมเปิดแลนด์มาร์กใหม่ 3 บิ๊กมิกซ์ยูส เมืองศักยภาพสูง “อยุธยา-ศรีราชา-จันทบุรี” มูลค่ารวมกว่า 13,900 ล้านบาท Grand Openingสิ้นปีนี้ – กลางปี 65

คณะผู้บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย นำโดย นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, นายชนวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ, ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด และ นายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขาย ร่วมแถลงแผนลงทุนเซ็นทรัลพัฒนา

นางสาววัลยา กล่าวว่า เซ็นทรัลพัฒนาไม่เคยหยุดนิ่ง โดยครองความเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งด้านอสังหาริมทรัพย์มาตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมา และถึงแม้ในปีที่ผ่านมาจะเป็นปีแห่งความท้าทายจากวิกฤติโควิดก็ตาม แต่ในปี 2564 เราคิดบวกและเชื่อมั่นว่า ในวิกฤติยังมีโอกาสในการลงทุนเติบโตไปร่วมกันเสมอ และพร้อมพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่ออนาคตของประเทศ โดยยังคงเดินหน้าเตรียมพร้อมเปิดโครงการตามแผนที่วางไว้ทั้งสิ้น 3 บิ๊กมิกซ์ยูส รวมมูลค่าโครงการกว่า 13,900 ล้านบาท เพื่อเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่งเสริมและยกระดับศักยภาพจังหวัด พร้อมดึงความโดดเด่นของอัตลักษณ์ท้องถิ่น และกระจายความเจริญและรายได้

ได้แก่ · เซ็นทรัล อยุธยาเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้า, Tourist Attraction, โรงแรม, ที่พักอาศัย, และคอนเวนชั่นฮอลล์ บนที่ดิน 47 ไร่ โดยมีพื้นที่ GFA 68,000 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 6,200 ล้านบาท เปิดให้บริการเดือน 27 ต.ค. 64

· เซ็นทรัล ศรีราชา เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้า, คอนเวนชั่นฮอลล์, เซอร์วิส อพาร์ทเมนต์, ออฟฟิศ และโรงแรม บนที่ดิน 27 ไร่ โดยมีพื้นที่ GFA 71,000 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 4,200 ล้านบาท เปิดให้บริการ เดือน 25 ก.ย. 64

· เซ็นทรัล จันทบุรี เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ประกอบไปด้วย ศูนย์การค้า, Local market, ที่พักอาศัย, และโรงแรม รวมถึง Social Park บนที่ดิน 46 ไร่ โดยมีพื้นที่ GFA 42,600 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท เปิดให้บริการไตรมาสที่2/2565


การขยายโครงการครั้งนี้ เซ็นทรัลพัฒนา ตั้งใจให้เป็นมากกว่าแค่การขยายสาขาศูนย์การค้า โดยได้วาง 3 กลยุทธ์แห่งความสำเร็จ คือ 1) บุกเบิกเมืองด้วยโมเดล Fully-Integrated Mixed-Use Developments ที่แข็งแกร่ง 2) Customer-Centric Design Thinking and Marketing และ 3) Tenant-Centric Business Partnership

ยกตัวอย่าง กลยุทธ์ที่ 1: บุกเบิกเมืองด้วยโมเดล Fully-Integrated Mixed-Use Developments ที่แข็งแกร่งของเซ็นทรัลพัฒนา ด้วยจุดแข็งและ Success Formula ของบริษัทฯ ที่มีมายาวนาน โดยทุกโครงการสร้าง Big Impacts ให้กับทุกจังหวัดที่ไปตั้งอยู่ ประกอบกับความเชี่ยวชาญในการพัฒนาทุกองค์ประกอบให้เป็นส่วนประกอบที่ดีที่สุดและที่เชื่อมโยงเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน อีกทั้งคอนโดมิเนียมของเราเน้นจุดแข็งที่อยู่ติดศูนย์การค้าทำให้หลายโครงการสามารถ sold out ได้อย่างรวดเร็ว อาทิ ระยอง อาคารแรก, เชียงใหม่ อาคาร 1-2, โคราช อาคารแรก และขณะนี้มีเปิดโครงการเพิ่มอยู่ทั้ง 3 จังหวัด อีกทั้งโครงการที่หาดใหญ่ขณะนี้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เป็นต้น โดยปัจจุบันธุรกิจที่พักอาศัยของเซ็นทรัลพัฒนามีกว่า 18 โครงการใน 10 จังหวัด

นอกจากนี้ มีโรงแรมแบรนด์ใหม่ที่จะเกื้อหนุนโครงการ ทำให้มี Business & Traffic Ecosystem ที่ดีอย่างแน่นอน พร้อมกับวิสัยทัศน์ที่เล็งเห็นศักยภาพและเจาะเมืองเศรษฐกิจใหม่ได้อย่างแม่นยำ ตอบรับไปกับแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล อยุธยา เพื่อสร้าง Complete Tourism Ecosystem ให้กับจังหวัด ช่วยยกระดับการท่องเที่ยวของอยุธยาทั้งระบบ และส่งเสริมการเป็น Hub สู่ภาคเหนือและอีสาน, เซ็นทรัล ศรีราชา ยกระดับให้เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ล้ำสมัยพร้อมรองรับ EEC และ New S Curve และเซ็นทรัล จันทบุรี ผลักดันศักยภาพและเจียระไนจันทบุรีที่เป็นเหมือน Hidden Gem ของประเทศ เป็นจุดเชื่อมต่อจากเขตเศรษฐกิจ เป็น EEC Plus 2 ตามแผนพัฒนาเมืองรองของภาครัฐ


กลยุทธ์ที่ 2: Customer-Centric Design Thinking and Marketing แนวคิดการพัฒนาโปรเจ็คที่ รังสรรค์โครงการในทุกองค์ประกอบเพื่อทุกไลฟ์สไตล์แห่งอนาคต และชูวิถีอัตลักษณ์ของเมือง ทุกโครงการมีความพร้อม และเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ดีที่สุดของจังหวัด ในเรื่องต่างๆ ได้แก่ การออกแบบก่อสร้างที่ทันสมัย ผนวกวิถีแห่งเมือง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

,การร่วมมือกับพันธมิตรที่พร้อมเดินหน้าลงทุนเติบโตไปด้วยกัน และสร้างสรรค์สินค้าและบริการใหม่ๆ ที่ customize ตามจังหวัดต่างๆ ,แผนการตลาดที่เจาะกลุ่มพร้อมรับ Digital Disruption, การสร้าง community, และแผนดันกำลังซื้อสนับสนุนร้านค้าตลอดทั้งปี ย้ำ ‘กำลังซื้อชัด-ไลฟ์สไตล์ดี-สร้างเสน่ห์ท่องเที่ยว’


ด้านนายชนวัฒน์ มั่นใจว่า ที่เมืองเศรษฐกิจที่เรากำลังจะขยายไปทั้ง 3 แห่งนั้น ทั้งอยุธยา, ศรีราชา และจันทบุรี ยังมี Retail Gap ที่รอให้เราเข้าไปเติมเต็มได้ ทุกโครงการของเซ็นทรัลพัฒนา เป็นเสมือน Milestone ที่ยกระดับความเจริญ และศักยภาพของเมืองหรือจังหวัดนั้นๆ และเราสร้าง community สร้าง Center of Life ให้กับทุกจังหวัดที่เราไปตั้งอยู่ โดยมีโฟกัสสำคัญในแต่ละโครงการ ดังนี้

“เซ็นทรัล อยุธยา”: อัศจรรย์อยุธยา ยกระดับความเรืองรองของเมือง UNESCO World Heritage ให้ทั่วโลกได้รู้จัก ส่งเสริมให้ ‘อยุธยาของคนไทย’ เป็นสปอตไลท์ระดับโลก ดึงศักยภาพของเมืองแบบ Kyoto Model: เมืองแฝดเกียวโต-อยุธยา โดยดึงเอกลักษณ์ของการเป็นเมืองมรดกโลก, ประวัติศาสตร์, อาหาร, สินค้าพื้นถิ่น ซึ่งเซ็นทรัล อยุธยา จะช่วยบุกเบิก Modern Commerce District

“เซ็นทรัล ศรีราชา” ปั้นเมือง New S-Curve ซึ่งเป็น Promising City เมืองอนาคตไกล ผลักดันศักยภาพศรีราชาเป็น Center of EEC ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘Inspiring Si Racha – The Innovation Oasis’ ล้ำอย่างลงตัว เป็น Community Thought Leader ด้วย Facilities ล้ำสมัย สร้างพลังสีเขียวใจกลางเมือง

“เซ็นทรัล จันทบุรี”: บุกตลาด Blue Ocean มิกซ์ยูสหนึ่งเดียวในจันทบุรี และครบครันที่สุดในภาคตะวันออก เป็น The Hidden Gem of EEC Plus 2 สร้างเศรษฐกิจและวิถีท้องถิ่นแข็งแกร่งระดับประเทศ เป็นโครงการแรกในต่างจังหวัดที่ทำ Sport Destination ด้วยพื้นที่ Multi-Purpose กว่า 4,000 ตร.ม. ,ผสานเสน่ห์ของจันทบุรีเข้ากับการออกแบบทั้งภายในและภายนอกโครงการ เช่น เสื่อจันทบูร, ลานหินสีชมพู และผลมะปี๊ด


ผู้บริหารทรัลพัฒนา ยังรายงานภาพรวมธุรกิจของเซ็นทรัลพัฒนา ของปี 2563 ยังแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวม 32,062 ล้านบาท และกำไร 9,557 ล้านบาท สะท้อนความเป็นมืออาชีพในการบริหารจัดการต้นทุน การปรับแผนการลงทุน รวมถึงการดูแลช่วยเหลือ Stakeholders ทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน เซ็นทรัลพัฒนา บริหารจัดการศูนย์การค้า 34 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.8 ล้านตารางเมตร (อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ, ต่างจังหวัด 18 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ) ศูนย์อาหาร 30 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 2 แห่ง โครงการที่พักอาศัยอีก 18 โครงการ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ESCENT, ESCENT VILLE, ESCENT PARK VILLE, PHYLL PAHOL 34 และ BELLE GRAND RAMA 9 และโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ ESCENT TOWN พิษณุโลก (ทาวน์โฮม) นินญา กัลปพฤกษ์ (บ้านแฝด) โครงการนิยาม บรมราชชนนี (บ้านเดี่ยวระดับลักชูรี่) และโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว ได้แก่ นีรติ เชียงราย และนีรติ บางนา อีกทั้งยังมีโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่อีกมาก เช่น ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ที่ร่วมทุนกับดุสิตธานี และโครงการ GLAND ที่เซ็นทรัลพัฒนาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น