xs
xsm
sm
md
lg

ลึกทันใจ : ธรรมกาย:ภัยร้ายความมั่นคงของชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงานพิเศษ ลึกทันใจ ตอนธรรมกาย:ภัยร้ายความมั่นคงของชาติ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม NEWS1 วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2560



แม้ว่าเรื่องราวของวัดพระธรรมกายและธัมมชโย ผู้ต้องหาคดีรับของโจร ฟอกเงินและอีกหลายร้อยคดี จะเงียบหายไปพักใหญ่แล้ว แต่บรรดาสาวกทั้งหลายทั้งสายตรงและสายอ้อม ไม่ได้เงียบตาม ยังคงมีความเคลื่อนไหวดิ้นสู้ในทุกวิถีทาง ขณะที่การดำเนินการทางพระวินัยด้วยการจับสึกกับธัมมชโยก็สะดุดหยุดกึกอยู่ที่เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

เริ่มกันที่สายตรงธรรมกายก่อนคือสายของนายแพทย์พรชัย พิญญพงษ์ ผู้ที่ถูกขับออกจากตำแหน่งประธานองค์การยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ที่กำลังพยายามให้มูลนิธิวัดพระธรรมกายกลับเข้ามาเป็นสมาชิกในองค์การยุวพุทธฯ โลกให้ได้อีกครั้ง เพราะมีผลต่อการขยายสาขาของวัดพระธรรมกาย ส่วนสายอ้อมอย่างสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทยที่เดินไปในแนวทางเดียวกับเจ้าคุณประสาร ได้ปรับบทบาทมาเป็นกองหนุนของวัดพระธรรมกาย โดยมี ดร.บรรจบ บรรณรุจิ ประธานและนายกรณ์ มีดี เลขาธิการสมาพันธ์ฯ อดีตแกนนำเสื้อแดง นนทบุรี ได้เปิดรับสมาชิกทั่วประเทศเข้ามาเป็นแนวร่วมด้วยข้ออ้างว่าต้องการปกป้องพระพุทธศาสนา

ซึ่งตรงนี้ถือเป็นความน่ากลัวมาก เพราะหากปล่อยให้แตกหน่อออกพันธุ์ไปเรื่อยๆ วันข้างหน้าอาจคุมไม่อยู่ ล่าสุดมีการเคลื่อนไหวด้วยการเสนอบทความผ่านเฟซบุ๊กของสมาพันธ์ฯ ยกตัวอย่างกรณีของพระเมียนมาที่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของมหาเถรสมาคม มีเนื้อหาเป็นการกล่าวถึงพระวีระธุ พระชาวเมียนมาที่เคยมีบทบาทสำคัญในเรื่องเหตุการณ์ความรุนแรงกับชาวโรฮิงญาในประเทศพม่า และเคยได้รับรางวัลจากเครือข่ายของวัดพระธรรมกาย โดยชื่นชมการแข็งข้อของพระวีระธุว่า ท่านวีระธุประกาศไม่ยอมสยบมหาเถรสมาคมเมียนมา ซึ่งผิดจากพระมหาเถระของไทยที่อยู่ไกลปัญหาและเอาใจรัฐบาล ถือเป็นการปลุกระดมพระในสายของวัดพระธรรมกายให้ลุกขึ้นมาต่อกรกับคณะสงฆ์ชั้นปกครองของไทย หลังจากที่พระธัมมชโยถูกดำเนินคดีและถูกปลดสมณศักดิ์ ด้วยการยกตัวอย่างเรื่องของพระวีระธุของเมียนมาเป็นตัวจุดชนวน
และเมื่อตรวจสอบในเพจของตื่นเถิดชาวพุทธ ก็มีความพยายามที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งทางศาสนา ด้วยการนำเหตุการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ที่มีพระสงฆ์มรณภาพจากเหตุรุนแรงมาปลุกเร้าอารมณ์ชาวพุทธให้เกิดความโกรธ นับเป็นการแสดงเจตนาของทางเครือข่ายของทางวัดพระธรรมกาย ที่ใช้มุมมองในด้านลบต่อศาสนาอื่น เพื่อหวังนำมาขยายผล เพื่อประโยชน์ของตัวเอง โดยพยายามทำให้เห็นว่าศาสนาพุทธกำลังมีภัยจึงต้องปกป้อง

ด้านนายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้และอดีตเลขาธิการศอ.บต. ยืนยันว่า ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ไม่มีเรื่องความขัดแย้งกันระหว่างศาสนา แต่เป็นเรื่องภายในประเทศ 13 ปีของเหตุการณ์พี่น้องมุสลิมเสียชีวิตมากกวาคนพุทธ ทั้งหมดเป็นเรื่องของคนไม่ดีและเกิดจากกลุ่มผู้ก่อเหตุ ดังนั้นคนที่เอาเรื่องนี้มาเชื่อมโยงกันจึงเป็นความเท็จโดยสิ้นเชิง

การหยิบยกเอาเรื่องของศาสนาขึ้นมาเป็นประเด็นในการต่อสู้นั้น ถือเป็นเรื่องอันตรายและไม่สมควร เพราะศาสนาพุทธไม่ได้มีภัยหรือเกิดวิกฤตตามที่กล่าวอ้าง และการยกระดับของคดีวัดพระธรรมกายให้ขึ้นมาเป็นวิกฤตของพุทธศาสนานั้นย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือพูดง่าย ๆ คือการทำให้เห็นว่าการดำเนินการกับวัดพระธรรมกายและธัมมชโย เป็นการทำลายพระพุทธศาสนานั้น เป็นเรื่องที่บิดเบือนอย่างน่าละอายที่สุด เพราะธัมมชโยเป็นผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน ทั้งฟอกเงิน รับของโจรของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น บุกรุกป่า และอีกนับร้อยคดีมีพยานหลักฐานชัดเจน ถือเป็นภัยร้ายต่อความมั่นคงของชาติที่ต้องจัดการ หรือหากมั่นใจว่าไม่ผิด ก็ออกมามอบตัวสู้คดี จะหนีไปทำไม???

ทีมข่าวลึกทันใจ รายงาน
กำลังโหลดความคิดเห็น