นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์, CFA, Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มฟื้นตัว โดยเริ่มเห็นสัญญาณการมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทั้งภาคการผลิตที่กลับมาอยู่ในแดนขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และภาคบริการที่อยู่เหนือระดับ 50 เป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มองเห็นโอกาสเข้าทำกำไรในจีน โดยเฉพาะหุ้นนอกตลาด (Private Equity) ในจีน ซึ่งมีมูลค่าการระดมทุนสูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลก จึงได้จัดตั้ง กองทุนเปิดเค ไชน่า ไพรเวทอิควิตี้ 23A ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (K-CHAPE23A-UI) เพื่อเพิ่มโอกาสทางการลงทุน พร้อมเสริมความมั่งคั่งอย่างมั่นใจไปกับ Schroders Capital ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน Private Equity ในจีน โดยมีกำหนดเปิดเสนอขายครั้งเดียวในระหว่างวันที่ 24 ต.ค.-2 พ.ย. 66 เริ่มต้นลงทุน 1,000,000 บาท
นายวจนะกล่าวต่อไปว่า กองทุน K-CHAPE23A-UI มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุน Schroders Capital Private Equity China VI S.C.S. (กองทุนหลัก) ที่ลงทุนในธุรกิจที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งกิจการ (Venture Capital) และธุรกิจที่อยู่ในช่วงเติบโตซึ่งต้องการเงินทุนเพื่อขยายกิจการ (Growth Capital) ผ่านการซื้อขายในตลาดรอง ซึ่งมีระดับราคาที่น่าสนใจ หรือ เป็นการร่วมลงทุน โดยเน้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโต และสอดคล้องกับแผนการพัฒนาของรัฐบาลจีน ได้แก่ เทคโนโลยี สุขภาพ และการบริโภค ซึ่งมีศักยภาพในการกลายเป็นกลุ่มบริษัทที่เป็นผู้นำตลาดในอนาคต เช่น Lalamove แพลตฟอร์มส่งพัสดุที่เชื่อมต่อผู้ส่งสินค้ากับคนขับ, Xiaomi ผู้พัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, Pop Mart เครือร้าน Blind Box ของเล่นดีไซเนอร์ และ Hongene Biotech ผู้พัฒนาและผลิตวัตถุดิบยาและวัคซีนจาก mRNA ชั้นนำ
“ความน่าสนใจของกองทุน K-CHAPE23A-UI อยู่ที่ 1) กองทุนมีการกระจายการลงทุนในหลายมิติ ทั้งด้านอุตสาหกรรม ช่วงของธุรกิจ ลักษณะการร่วมลงทุน และมีแผนลงทุนในกว่า 100 บริษัท โดยความผันผวนของผลตอบแทนในอดีตของกองทุนหลัก Schroders Capital China Private Equity ต่ำกว่าดัชนีหุ้นจีน MSCI All Share 2) กองทุนเรียกเงินลงทุนครั้งเดียว (Single Call) และมีอายุประมาณ 9 ปี ซึ่งสั้นกว่ากองทุนหุ้นนอกตลาดทั่วไป และ 3) กองทุนบริหารโดย Schroders Capital ซึ่งมีประสบการณ์การลงทุน Private Equity ในจีนมานานกว่า 15 ปี และมีเครือข่ายผู้จัดการกองทุน Private Equity ที่แข็งแกร่ง รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากทีม Schroders สวิตเซอร์แลนด์ จึงทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจได้” นายวจนะกล่าว
นายวจนะกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน K-CHAPE23A-UI เหมาะสำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ ที่มีประสบการณ์การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเป็นประจำและต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่มีการลงทุนในตลาดหุ้นจดทะเบียนของจีนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น A-Share หรือ H-Share สามารถเพิ่มโอกาสการลงทุนใน Private Equity ผ่านกองทุน K-CHAPE23A-UI ได้ โดยผู้ลงทุนต้องถือครองหน่วยลงทุนเป็นเวลาประมาณ 9 ปี