นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า "ตราสารหนี้" ยังคงเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลก แม้ว่าในปี 2022 ที่ผ่านมาได้มีการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วและแรง รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ตราสารหนี้ได้รับแรงกดดันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันตราสารหนี้กลับมาน่าสนใจจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed ที่ใกล้จะสิ้นสุด เงินเฟ้อในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วมีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุด ส่งผลให้ผลตอบแทนของตราสารหนี้หลายกลุ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับที่น่าสนใจ อีกทั้งผลตอบแทนจากการถือครองตราสารหนี้ในปัจจุบันเมื่อเทียบกับช่วงก่อนขึ้นดอกเบี้ยตอนสิ้นปี 2021 จะเห็นได้ว่า "อัตราตอบแทน (Yield)" เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ
บลจ.กรุงศรีมองว่าปัจจุบันเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลก จึงได้เปิดขายกองทุนกรุงศรีโกลบอลสมาร์ทอินคัมเอฟเอ็กซ์ (KFSINCFX) เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันนี้-16 ตุลาคม 2566 ลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท
ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund ซึ่งมีความโดดเด่นในหลายด้านและเป็นกองทุนที่ได้ Morningstar Rating 5 ดาว (ที่มา PIMCO ณ 31 ก.ค. 66) บริหารจัดการโดยผู้จัดการกองทุนระดับโลกอย่าง PIMCO ถือว่าเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก พร้อมโอกาสสร้างผลตอบแทนทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวได้อย่างน่าสนใจ
จุดเด่นของกองทุนหลัก คือ มีการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้หลายประเภททั่วโลก ผสมผสานระหว่างตราสารที่มีคุณภาพสูงกับตราสารที่ให้ผลตอบแทนสูง ทั้งตราสารหนี้ภาครัฐ หุ้นกู้เอกชน Investment grade High yield และตราสารหนี้ที่มีอสังหาฯ/สินทรัพย์ค้ำประกัน กองทุนหลักใช้กลยุทธ์การปรับพอร์ตที่ยืดหยุ่น ทั้งในด้านอายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ และประเภทตราสารหนี้ที่ลงทุน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด และอัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลง มุ่งเน้นกระแสเงินสดที่มีความสม่ำเสมอจากการลงทุนเป็นตัวขับเคลื่อนผลตอบแทนโดยรวม และให้ความสำคัญต่อการป้องกันความเสี่ยงขาลงเมื่อเทียบกับกองทุนตราสารหนี้อื่นๆ ที่เน้นลงทุนในตราสารภาคเอกชน
กองทุน KFSINCFX แบ่งเป็น 2 ชนิดหน่วยลงทุน ได้แก่ KFSINCFX-A แบบสะสมมูลค่า ที่จะสะสมกำไรไว้ในพอร์ตต่อเนื่อง และ KFSINCFX-R ที่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (Auto-Redemption) ปีละ 4 ครั้งเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้รับกระแสเงินสดจากกองทุนสม่ำเสมอ คล้ายกับการจ่ายเงินปันผล แต่ไม่ต้องเสียภาษี
“กองทุน KFSINCFX เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาแหล่งสร้างผลตอบแทนในรูปแบบของรายได้ประจำจากการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลก โดยจุดที่แตกต่างจากกองทุน KF-SINC0ME กับ KF-CSINCOM ที่มีอยู่ก่อนแล้วและลงทุนในกองหลักเดียวกัน อยู่ตรงที่ทั้ง 2 กองทุนนี้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ขณะที่โดยปกติ KFSINCFX จะไม่ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนได้” นางสุภาพรกล่าว