xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.กรุงศรีชี้ปีทองตราสารหนี้ หุ้นไทยอัปไซด์จำกัด ดัชนีปีนี้ 1,740

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



**•บลจ.กรุงศรีตั้งเป้าสินทรัพย์รวมภายใต้การบริหารปี 66 โตกว่า 10% แตะระดับ 6แง แสนล้านบาท**

**•การลงทุนตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนสูง และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยใกล้ถึงจุดสูงสุด**

**•เป้าดัชนีหุ้นไทยปีนี้ที่ 1,740 โดยมีกรอบล่างอยู่ที่ 1,520 จุด**

นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหาร (AUM) ที่ 6 แสนล้านบาท จากสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 5.4 แสนล้านบาท หรือเติบโตกว่า 10% และเชื่อว่าจะยังครองส่วนแบ่งตลาดในส่วนกองทุนรวมอยู่ในอันดับ 5 ของอุตสาหกรรมกองทุนต่อไป

ทั้งนี้ ในส่วนของการลงทุน บริษัทมองว่า การลงทุนในตราสารหนี้มีความน่าสนใจในปีนี้เนื่องจากมีอัตราผลตอบแทนที่ดีในช่วงอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงและคาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับนี้ไปอีกอย่างน้อย 1 ปีทำให้การลงทุนในตราสารหนี้มีโอกาสได้ผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าตราสารหนี้

“อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ น่าใกล้จุดสูงแล้วและอาจปรับขึ้นได้อีกไม่น่าเกิน 0.5% โดยคาดว่าจะทรงตัวอย่างนี้ไปอีก 1 ปีและมีโอกาสปรับลดลงได้ในปีหน้า โดยการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศปัจจุบันจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าในประเทศ แต่ยังต้องดูต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนก่อนว่าสูงเกินไปหรือไม่” นางสุภาพรกล่าว


ด้านการลงทุนในตลาดหุ้นไทย นายศิระ คล่องวิชา ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการลงทุน บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า การลงทุนในตลาดหุ้นไทยระยะสั้นจะยังคงมีความผันผวนจากปัจจัยภายนอกประเทศ จนกว่านักลงทุนจะคลายความกังวลต่อวิกฤตการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ส่วนในระยะกลางและระยะยาวตลาดหุ้นไทยจะตอบรับปัจจัยพื้นฐานที่มีแนวโน้มดีขึ้นจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ได้รับประโยชน์ตามการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวและการเลือกตั้งทั่วไป สำหรับแนวโน้มของดัชนี SET Index ยังคงขึ้นอยู่กับบรรยากาศการลงทุนโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าปัญหาของภาคธนาคารในประเทศตะวันตกจะไม่ส่งผลต่อเสถียรภาพสถาบันการเงินไทยก็ตาม ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาเป็นผู้ขายสุทธิในตลาดไทยกว่า 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงสามเดือนแรกของปีนี้

“ดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ตามทิศทางกำไรบริษัทจดทะเบียนปีนี้ คาดว่ายังเติบโตดีกว่าปีก่อน และหากปัญหาในเศรษฐกิจต่างประเทศคุมได้จะส่งผลดีการส่งออกที่ปรับตัวดี จะเป็นบวกต่อการส่งออกไทย เป็นอัปไซด์เพิ่มต่อเศรษฐกิจไทยรวมถึงตลาดหุ้นไทยในปีนี้ด้วยเช่นกัน รวมถึงเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) น่าจะเริ่มไหลกลับมา เรายังคงมุมมองดัชนีหุ้นไทยปลายปีนี้ไว้ที่ 1,740 จุดและมีกรอบล่างอยู่ที่ 1,520 จุด” นายศิระกล่าว

อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทมองว่าตลาดหุ้นไทยอัปไซด์จำกัด เพราะว่าปีก่อนตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศ ปรับตัวลงมากกว่า 20% ขณะที่ทิศทางการลงทุนปีนี้น่าจะปรับตัวดีกว่าปีก่อน ทำให้ตลาดหุ้นต่างประเทศน่าจะมีอัปไซด์มากกว่า ปัจจัยที่จะหนุนดัชนีฯ คือ กำไรของบริษัทจดทะเบียน”
กำลังโหลดความคิดเห็น