xs
xsm
sm
md
lg

เอ็กซ์สปริงตั้งเป้าAUMแตะ1.5หมื่นล้าน รุกเจาะกองทุนบุคคลสถาบัน-เศรษฐี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



XSpring AM ตั้งเป้าAUMแตะ1.5หมื่นล้าน ควบAUAอีก3-4พันล้าน เน้นเจาะกลุ่มลูกค้ากองทุนบุคคลมั่งคั่งสูงและสถาบัน ระบุหุ้นไทยกลับมาน่าสนใจ คาดทั้งปีดัชนี 1,730 ท่องเที่ยวและหลังเลือกตั้งมีโอกาสอัพไซด์10%

นายยศกร ฟอลเล็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็กซ์สปริง จำกัด หรือ XSpring AM เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM)ปีนี้มั่นใจว่ามีโอกาสเติบโตได้ถึงระดับ 1.2-1.5 หมื่นล้านบาท หรือมากกว่า10%จากช่วงปีที่ผ่าน แตะที่จากสิ้นปี 2565 ที่เติบโตอยู่ที่ 9.3 พันล้านบาท โดยจะเน้นการเติบโตในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดเนื่องจากเชื่อว่าจะมีโอกาสมากกว่าที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งและกองทุนส่วนบุคคลของสถาบัน เช่นสหกรณ์ออมทรัพย์ และมหาวิทยาลัยต่างๆ

“การเติบโตAUMปีนี้ จากการการรุกตลาดส่วนบุคลประเภทสหกรณ์ต่างๆมากขึ้น เพราะถ้าดูกระบวนการในการออกกองทุนรวมปีนึงได้10-12กองคงเป็นจะค่อนข้างยุ่งยากแต่ในส่วนของกองทุนส่วนบุคคลเราสามารถทำได้คล่องตัวกว่า ซึ่งเมื่อครบกำหนดอายุสัญญาของแต่ละที่เราสามารถเข้าไปแข่งขันได้และมีหลายที่เหมือนกันทีาเราอยู่ในกระบวนที่จะเสนอตัวเข้าไปบริหารให้เช่นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนออกกองทุนใหม่เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง ซึ่งจะเป็นกองที่มีโครงสร้างการลงทุนที่พิเศษกว่ากองทุนรวมทั่วไป โดยอาจจะเป็น กองทุน เน้นลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด ตราสารหนี้คุณภาพดีที่เหมาะกับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ลงทุนและรับความเสี่ยงได้สูงกว่าตามเกณฑ์ที่ ก.ล.ต. กำหนดเป็นต้น

นายยศกร กล่าวอีกว่า นอกจากส่วนของบลจ.แล้วบริษัทยังตั้งเป้าหมายสินทรัพย์ภายใต้คำแนะนำลงทุน (AUA)ปีนี้เติบโตแตะที่ระดับ 3-4 พันล้านบาท จากสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 300 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการเริ่มปีที่2หลังจากที่บริษัทเพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจแนะนำการลงทุนในช่วงเดือนสิงหาคมปี2565 โดยบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มผู้เชี่ยวชาญแนะนำการลงทุนอีก 40คน จากเดิมมีอยู่ประมาณ 16 คน พร้อมเพิ่มผู้แนะนำลงทุนอิสระจาก 10 รายในปัจจุบันเป็น 50 คน รวมถึงการเพิ่มพันธมิตรบลจ.อีกประมาณ4บริษัทเป็น20บริษัทรตกปัจจุบันมีอยู่แล้ว16แห่งเพื่อเพิ่มข่องทางการลงทุนให้กับนักลงทุนให้หลากหลายมากขึ้น

ขณะที่ทิศทางการลงทุน XSpring AM นายยศกร กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันบริษัทกลับมาให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมองกรอบดัชนีระยะสั้นดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 1,520-1,5801 จุด ส่วนกรอบดัชนีหุ้นไทยสิ้นปี 2566 อยู่ที่ระดับ 1,730 จุด

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกทั้งนักท่องเที่ยวกลับมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อเสรษฐกิจไทยให้กับมาฟื้นตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการประกาศเลือกตั้งอย่างเป้นทางการในวันที่ 14 พ.ค.2566 ทำให้ตลาดหุ้นไทยขานรับกับประเด็นดังกล่าวค่อนข้างมาก เชื่อว่า หลังจากจบการเลือกตั้งและไม่มีประเด็นอะไรเข้ามากระทบผลเลือกตั้ง หุ้นไทยช่วง 3-6 เดือนหลังเลือกตั้งจะRally มองว่าจะมีอัพไซด์ประมาณ 10%

“หลังจบเลือกตั้งและนิ่ง มีโอกาสที่เงินลงทุนจากต่างประเทศ(ฟันด์โฟลว์)ไหลกลับเข้ามายังตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นมากกว่าไหลเข้าตลาดตราสารหนี้ ดังนั้น ช่วงนี้นักลงทุนสามารถทยอยลงทุนให้หุ้นที่มีคุณภาพ สำหรับกลุ่มหุ้นเด่นรับอานิสงค์การกลับมาของนักท่องเที่ยวและเศรษฐกิจฟื้น เน้นหุ้นกลุ่มสายการบิน โรงแรม โรงพยาบาล บริโภค ส่วนหถ้นไทยที่เหมาะลงทุนรับเลือกตั้ง ได้แก่ หุ้นกลุ่มสื่อสาร ก่อสร้าง นิคมอุตสาหกรรม พาณิชย์ “นายยศกรกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น