บลจ.วรรณเชื่อหุ้นกลุ่มแบงก์ผันผวนระยะสั้น มั่นใจไม่ลุกลาม แนะสะสมกองทุนเปิด วรรณ เซ็ท ไฮ ดิวิเดนด์ หุ้นทุน (ONE-SETHD) กองทุนเปิด วรรณ ออล ไชน่า อิควิตี้ ชนิดไม่จ่ายเงินปันผลสำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (ONE-ALLCHINA-RA) ช่วยกระจายเสี่ยง
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นโลกยังมีแนวโน้มผันผวนจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเงินของภาคธนาคารของทั้งสหรัฐฯ และยุโรป อย่างไรก็ตาม บลจ.วรรณไม่ได้รับผบกระทบจากประเด็นดังกล่าว เนื่องจากไม่ได้มีการลงทุนในหุ้นกู้ AT1 ของธนาคารเครดิต สวิส ทั้งทางตรงและทางอ้อม ปัจจุบัน กองทุนตราสารหนี้ของ บลจ.วรรณ เน้นลงทุนตราสารหนี้คุณภาพดีในประเทศเป็นหลัก (Investment Grade) มีอายุเฉลี่ยตราสารหนี้ (Duration) ที่ค่อนข้างสั้น จึงได้รับผลกระทบจาก Sentiment เชิงลบในตลาดค่อนข้างจำกัด
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งจากภาคธนาคารสหรัฐฯ และยุโรป อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อ Sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่มการเงินในระยะสั้น แต่บริษัทยังคงเชื่อมั่นว่าผลกระทบจากกรณีหุ้นกลุ่มธนาคารที่เกิดขึ้นทั้งจากสหรัฐฯและยุโรปจะค่อนข้างจำกัดและไม่ลุกลามเป็นวิกฤตทางการเงินรอบใหม่ อีกทั้งมองว่าการที่ธนาคารกลางและหน่วยงานรัฐยื่นมือเข้าช่วยเพิ่มสภาพคล่องจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดความตื่นตระหนกในวงกว้างและจำกัดความเสี่ยงเชิงระบบได้
ทั้งนี้ บริษัทยังคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ที่มีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งคาดว่าได้รับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นของธนาคารกลางและ Valuation ที่ค่อนข้างถูก โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารยุโรป ซึ่งถูกปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้น มีอัตราการจ่ายปันผลที่ดีราว 8% และมีแนวโน้มการซื้อหุ้นคืนต่อเนื่อง โดยทางทีมงานยังคงความระมัดระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่ม Fintech ที่มีสถานะการเงินที่ดี (Balance sheet efficiency) และมีโอกาสเติบโตเด่นในระยะข้างหน้าจากสังคมไร้เงินสด” นายพจน์กล่าว
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ นายพจน์กล่าวเสริมว่า จากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีกำหนดประกาศวันเลือกตั้งเป็นที่เรียบร้อยในวันที่ 14 พ.ค.นี้ บริษัทมองว่าการเลือกตั้งทั่วไปจะเป็นแรงหนุนให้หุ้นไทยในระยะสั้น โดยจากสถิติในอดีต หุ้นไทยมักตอบสนองเชิงบวกต่อการเลือกตั้ง โดยในช่วง 3 เดือน 2 เดือน และ 1 เดือน ก่อนเลือกตั้งหุ้นไทยมักปรับตัวขึ้น เฉลี่ย 5.6% 2.5% และ 2.3% ตามลำดับ ที่ระดับความเชื่อมั่น 70%
“หุ้นไทยอาจมี Upside ค่อนข้างจำกัด จากกระแสเงินทุนไหลออกตามการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟด และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 4/2565 ที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่ออกมาอ่อนแอ และทำให้มีการปรับประมาณการผลกำไรบริษัทจดทะเบียนลง นอกจากนี้ ธปท.มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ในการประชุมเดือน มี.ค. อาจกดดันหุ้นไทยได้เช่นกัน” นายพจน์กล่าว
อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงแนะนำ “ซื้อสะสม” เมื่อตลาดแกว่งตัวลง ควบคู่กับการกระจายการลงทุนไปในกองทุนต่างประเทศ โดยมองว่าหุ้นที่คาดว่างบการเงินจะออกมาดี หุ้นที่มีปันผล หรือมีปัจจัยบวกเฉพาะจะเป็นหุ้นที่น่าลงทุนหลักในระยะนี้ ซึ่งกองทุนภายใต้การบริหารของ บลจ.วรรณที่แนะนำ ได้แก่ กองทุนเปิด วรรณ เซ็ท ไฮ ดิวิเดนด์ หุ้นทุน (ONE-SETHD) สำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนในตลาดต่างประเทศ แนะนำกองทุนเปิด วรรณ ออล ไชน่า อิควิตี้ ชนิดไม่จ่ายเงินปันผลสำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (ONE-ALLCHINA-RA) และกองทุนเปิดวรรณ อัลติเมท โกลบอล โกรว์ธ หน่วยลงทุนชนิดไม่จ่ายเงินปันผล สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (ONE-UGG-RA)