บลจ.อีสท์สปริง เชียร์ลงทุนเอเชียรับพี่ใหญ่จีนเปิดประเทศ-เศรษฐกิจโตส่งแรงกระเพื่อมทั่วเอเชีย ระบุการเปิดประเทศและการลดความเข้มทางนโยบายของภาครัฐทำให้ฟันเฟืองหลายตัวทำงาน ทั้งการท่องเที่ยวและการผลิต แถมฟันด์โฟลว์มีโอกาสกลับเข้าลงทุนเพิ่มหลังลดน้ำหนักไปในช่วงที่ผ่านมา
นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) อีสท์สปริง(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยมุมมองเกี่ยวการลงทุนในเอเชียและประเทศจีนว่า ที่ผ่านมาIMFเพิ่งมีการปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจโลกหลังจากที่จีนมีการประกาศเปิดประเทศ ซึ่งการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 5.2% เทียบกับสหรัฐฯที่ 1.4% และยุโรปเพียงแค่ 0.7% เท่านั้น โดยการเติบโตของสรัฐฯมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงอีกได้ ซึ่งในปีนี้ทำให้จีนโดดเด่นและน่าจะส่งผลดีต่อภูมิภาคเอเชียตามไปด้วย โดยการเปิดประเทศอย่างรวดเร็วและลดมาตรการควบคุมโควิดที่เข้มงวดถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้มีการปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจ นอกจากนี้ประเด็นที่น่าสนใจอีกเรื่องรคือการลดความเข้มงวดในการควบคุมภาคอุตสหกรรมเทคโนโลยีของจีนทำให้บริษัทเทคโลยีจีนกลับมาได้รับประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว
ส่วนของการท่องเที่ยวหลังจีนเปิดประเทศนักท่องเที่ยวจีนเริ่มออกเดินทางมากขึ้นและมีจำนวนมากที่สุดในโลก โดยภูมิภาคเอเชียจะได้รับอานิสงส์ไปด้วยทั้ง ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ รวมถึงไทยที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในประเทศปีนี้ถึง 20 ล้านคนจากปีที่ผ่านมามีเพียง 8 ล้านคน อย่างไรก็ตามยังถือเป็นจำนวนแค่ 50% ของนักเที่ยวจีนที่เข้ามาในประเทศไทยก่อนโควิด
นอกจากนี้การที่จีนเป็นประเทศที่มีฐานการผลิตใหญ่ระดับโลกแต่ความขัดแย้งกับสหรัฐฯ ยังมีท่าทีว่าจะไม่สามารถคลี่คลายได้โดยงานนั้น ทำให้เกิดนโยบาย china plus1 ซึ่งจะทำให้หลายบริษัทที่กังวลเรื่องความขัดแย้งดังกล่าวเริ่มย้ายฐานการผลิตบางส่วนออกจากจีน และคาดว่าจะเป็นอินเดียที่น่าจะได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้มากที่สุด
"บริษัทอย่าง foxconn ที่ผลิตไอโฟนให้แอปเปิลมีแผนที่จะย้ายการผลิตส่วนหนึ่งออกจากจีน และคาดว่าจะเป็นอินเดียที่น่าจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้เต็มและใน 3 ปีข้างหน้าจะเห็นการผลิตไอโฟนในอินเดียถึง 25% และโซนี่ก็ยังมีการย้ายฐานการผลิตมาไทยสำหรับผลิตภัฑณ์ที่ขายในสหรัฐฯ ยุโรปและเอเชีย ถัดมาคืออินโดีนีเซียที่มีแร่นิเกิลกับโคลบอลต์มากที่สุดและเป็นแร่ที่มีสัดส่วนต้นทุนในแบตเตอรี่สูงถึง 22% และถ้าสามารถลดต้นทุนในส่วนนี้ได้แล้วก็ทำให้แนวโน้มของการผลิตแบตเตอรีรถไฟฟ้าได้ถูกลง และขณะนี้อินโดฯเองก็บรรลุข้อตกลงกับบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใหญ่ๆอย่าง เทสล่า BYD รวมถึงฮุนได ซึ่งเรื่องทั้งหมดเป็นสัญญาณได้เลยทำไมเอเชียถึงมีความน่าสนใจ"
ขณะเดียวกันถ้ามองในแง่ของการลงทุนจะพบว่าที่ผ่านมานักลงทุนมีการลดน้ำหนักจีนรวมถึงเอเชียไปพอสมควร ถ้าทุกอย่างกลับมาจะเห็นได้ว่าแนวโน้มฟันด์โฟลว์จะมีการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มเอเชียและจีน และจะทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีกจากนิสงส์ของฟันด์โฟลว์