xs
xsm
sm
md
lg

อเบอร์ดีนชี้หุ้นไทยยังมีอัปไซด์ 10% ท่องเที่ยว-ฟันด์โฟลว์-เลือกตั้งหนุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อเบอร์ดีนชี้เศรษฐกิจโลกถดถอยไม่รุนแรง เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวต่อเนื่องรับจีนเปิดประเทศ ระบุหุ้นไทยปีนี้ฟันด์โฟลว์เข้าต่อแต่อัปไซด์แค่ 10% ต้องเน้นเลือกหุ้นรับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้นเพื่อเพิ่มผลตอบแทนชนะตลาด

มร.เจเรมี่ ลอว์สัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และหัวหน้าฝ่ายวิจัย abrdn เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกในปีนี้คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยแต่คงจะเป็นการถดถอยที่ไม่รุนแรงมากนักและจะเกิดขึ้นกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดยกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างจีนและภูมิภาคเอเชียน่าจะกลับมาสู่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด ขณะที่ภาวะเงินเฟ้อน่าจะมีความยืดเยื้อและคงจะอยู่กับเศรษฐกิจโลกไปอีกระยะหนึ่งเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางที่ล่าช้าในช่วงที่เริ่มมีสัญญาณเงินเฟ้อมาจากการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา

“ถ้าดูตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปจะเห็นภาพที่ค่อยๆ ลดลง และปัญหาขาดแคลนกำลังผลิตในช่วงโควิดเริ่มได้รับการแก้ปัญหาแล้ว ทำให้คาดว่าอัตรดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 5% และเฟดอาจจะปรับลดลงได้เพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจในกรณีที่เกิดภาวะถดถอยรุนแรง อย่างไรก็ตาม หากดูค่าแรงที่ยังสูงในประเทศพัฒนาแล้วก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเห็นอัตราดอกเบี้ยเฟดปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 6% ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้แล้วน่าจะส่งผลกระทบในแง่ลบต่อการลงทุนในหุ้นและตลาดตราสารหนี้”

นางสาวดรุณรัตน์ ภิยโยดิลกชัย หัวหน้าฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บลจ.อเบอร์ดีน กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะมีอัปไซด์ที่ประมาณ 10% โดยไทยเป็นตลาดที่มีการฟื้นตัวช้าและน่าจะได้รับประโยชน์จาก 3 ด้านด้วยกัน คือ 1. การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ 2. การเข้าลงทุนของต่างชาติในตลาดหุ้นไทย 3. การเลือกตั้งภายในประเทศ

สำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้คาดว่าจีดีพีในปี 2566 จะเติบโตที่ประมาณ 3.6% โดยจะได้รับอานิสงส์จากการที่จีนเปิดประเทศทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวของไทยกลับมาเติบโตมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาท่องเที่ยวในประทศไทยประมาณ 3-5 ล้านคนในปีนี้ และนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 1 ล้านคนจะมีผลต่อการปรับขึ้นของจีดีพีประมาณ 0.3%

ขณะที่การลงทุนของต่างชาติในปีนี้จะเป็นการซื้อสุทธิประมาณ 2 แสนล้านบาทแต่ภาพรวมแล้วในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาการลงทุนของต่างชาติยังเป็นการขายสุทธิทำให้เชื่อว่าจะยังมีโอกาสที่จะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่อีกมาก

“เศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวได้ดีจากการท่องเที่ยว ถึงแม้เศรษฐกิจโลกจะเกิดภาวะถดถอยจนกระทบต่อการส่งออกแต่จะได้การท่องเที่ยวกลับมาเป็นตัวขับเคลื่อนหลักแทนได้ ขณะที่ฟันด์โฟลว์มีโอกาสที่จะกลับเข้ามาลงทุนต่อเนื่องจากปีที่แล้วโดยส่วนหนึ่งจะเป็นผลมาจากแนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาทที่มากจากความต้องการของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ส่วนการเลือกตั้งนั้นจากสถิติที่ผ่านมาหุ้นมักมีการปรับตัวขึ้น ซึ่งต่อจากนั้นจะมีการโฟกัสไปที่นโยบายของรัฐบาลใหม่เป็นหลัก และเชื่อว่าใน 1 ปีแรกจะยังไม่เกิดความวุ่นวายทางการเมืองเกิดขึ้น”

ทั้งนี้ อเบอร์ดีนคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้น่าจะอยู่ในกรอบ 1,670-1,811 จุด จากสมมติฐานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน EPS ที่ 107 บาทต่อหุ้น และราคา P/E ที่ประมาณ 15-16 เท่า โดยถือเป็นราคาที่น่าสนใจลงทุนและเป็นโอกาสดีในการเข้าลงทุนเพิ่มหากหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม การลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีอัปไซด์ที่ไม่สูงมากนัก นักลงทุนควรมีการคัดเลือกหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเพื่อให้มีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่า

“เราแนะนำทั้งหุ้นใหญ่ และหุ้นกลาง-เล็ก โดยหุ้นใหญ่น่าจะได้รับอานิสงส์จากฟันด์โฟลว์ โดยหุ้นใหญ่ในกลุ่มอุปโภคบริโภคที่เราสนใจยกตัวอย่างเช่น ซีพีออลล์ ไมเนอร์ เป็นต้น แต่หุ้นกลุ่มธนาคารอาจได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้นได้ ส่วนหุ้นกลาง-เล็กก็จะเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ซึ่งที่เรามีการลงทุนอยู่อย่างโรงพยาบาลพระราม 9 ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพราะน่าจะได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาในไทยเนื่องจากเป็นโรงพยาบาลที่ทางการจีนแนะนำให้เข้ามาใช้บริการ”
กำลังโหลดความคิดเห็น