แรบบิทแคร์มั่นใจเบี้ยเข้าเป้า 3 พันล้าน หลังยอดล่าสุดกวาดเบี้ยไปแล้วกว่า 2 พันล้านบาท รุกเปิดบริการใหม่เปรียบเทียบบัตรเครดิตตั้งเป้าอนุมัติ 3 แสนใบภายในปีนี้ พร้อมเล็งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 3 ปีหวังพัฒนาโมเดลธุรกิจให้เป็นไปตามเป้า
มร.ไมเคิล มันเฟรด สไตลเบิล ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด เปิดเผยว่า แรบบิท แคร์ เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจตลาดออนไลน์ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น ประกันภัย บัตรเครดิต และสินเชื่อ โดยลูกค้าสามารถใช้บริการของบริษัทได้ทั้งบนระบบออนไลน์หรือผ่านคอลเซ็นเตอร์ซึ่งมีเจ้าหน้าที่บริการกว่า 500 คนได้ โดยปีนี้ถือเป็นปีที่ท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในส่วนของบริษัทและลูกค้า แต่ธุรกิจของบริษัทยังสามารถดำเนินไปได้ด้วยดี และเชื่อว่าจะทำตามเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับ 3 พันล้านบาทได้ในปีนี้
"บริษัทไม่ได้มีบริการด้านประกันอย่างเดียว แต่ได้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อ ซึ่งเราได้มีการเปิดตัวบริการใหม่ในการเปรียบเทียบจุดแข็งของบัตรเครดิต โดยเราถือเป็นแห่งแรกของไทยที่สามารถรวบรวมและนำบัตรเครดิตจากธนาคารชั้นนำในประเทศทั้งหมดมาเปรียบเทียบ และตั้งเป้าว่าจะมีการอนุมัติบัตรเครดิตให้ได้ 3 แสนใบในปี 2022 นอกจากนี้เรามีเป้าหมายกับกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้นำครอบครัวจัดทำแคมเปญเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ"
นายชยพัทธ์ สกุลร่มโพธิ์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเชิงพาณิชย์ บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีเบี้ยรับเข้ามาแล้วประมาณกว่า 2 พันล้านบาท และช่วงที่เหลือของปีก็น่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งเบี้ยประกันภัยของบริษัทในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดที่ระดับ 200% ต่อปี ทำให้ต่อจากนี้บริษัทมีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 3 ปี โดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่ใช่เพียงแค่การระดมทุนแต่บริษัทต้องการทำตามโมเดลธุรกิจที่ตั้งไว้ และอาจจะมีการขยายธุรกิจหรือแตกไลน์การเปรียบเทียบสินค้าอื่นๆ อีกได้ในอนาคต
ทั้งนี้ ในส่วนของประกันรถยนต์เน้นการเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเรามีพันธมิตรมากกว่า 20 บริษัทที่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้ นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้มีความรู้สึกพิเศษแตกต่างจากที่อื่น ขณะที่ประกันสุขภาพของบริษัทจะครอบคลุมตั้งแต่ อุบัติเหตุ โรคร้ายแรง และสุขภาพทั่วไป และสุดท้ายจะเป็นแบบประกันไลฟ์สไตล์ที่มีความคุ้มครองเกือบทุกรูปแบบ ทั้งในส่วนของประกันภัยสัตว์เลี้ยง ประกันการเดินทาง และประกันภัยสำหรับผู้เล่นกีฬาผาดโผน
"เราไม่ได้มีแค่ประกันส่วนบุคคลเท่านั้น แต่เรามีประกันภัยสำหรับลูกค้าองค์กรซึ่งมีเบี้ยเข้ามาสูงอยู่แต่ไม่ใช่ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งในส่วนของลูกค้าองค์กรส่วนใหญ่ที่เข้ามาซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ปัจจุบันเป็นลูกค้าเอสเอ็มอี ส่วนประกันสินเชื่อและการเงินลูกค้าสามารถเข้ามาดูว่าความต้องของลูกค้าเหมาะกับแบงก์ไหน และลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นแบงก์หรือนอนแบงก์ก็ได้ ซึ่งบัตรเครดิตเองเราก็มี 6 ธนาคารชั้นนำและบัตรเครดิตกว่า 30 ใบที่ลูกค้าสามารถเข้ามาเลือกเปรียบเทียบได้ว่าจะโพกัสในเรื่องใดตามใจชอบ โดยเราจะมีสิทธิพิเศษที่สร้างขึ้นมาเฉพาะทางเราให้แก่ลูกค้า"
นายชยพัทธ์กล่าวอีกว่า ด้วยปัจจัยหนุนจากระบบ CareOS หรือระบบปฏิบัติการความแคร์ ตัวช่วยในการรวบรวม วิเคราะห์ คัดเลือก และเปรียบเทียบความคุ้มค่าเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์ ที่ช่วยนำเสนอทางเลือกบัตรเครดิตให้ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลของลูกค้า พิสูจน์ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้มีผู้เข้ามาสมัครมากกว่า 30,000 คน และมีผู้ได้รับอนุมัติบัตรเครดิตไปมากกว่า 6,000 คนจากธนาคารต่างๆ ในระบบ อัตราการอนุมัติของเราได้เพิ่มขึ้นไป 5 เท่า มากกว่าในตลาดทั่วไป
• เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าแก่ลูกค้า ทางแรบบิท แคร์ได้มีการนำเสนอแคมเปญ Flash Sales สุด exclusive เฉพาะช่องทางแรบบิท แคร์เท่านั้น ซึ่งร่วมพัฒนาและลงทุนกับพาร์ตเนอร์ธนาคารซิตี้แบงก์ โดยนำเสนอของกำนัลเป็นลำโพงมาร์เเชล (Marshall Emberton) พร้อม Voucher จากแรบบิท แคร์ รวมมูลค่ากว่า 11,500 บาท ระหว่างวันที่ 13-30 กันยายน 2565 เท่านั้น
นายชยพัทธ์กล่าวอีกว่า บริษัทมีข้อได้เปรียบการแข่งขันบนแพลตฟอร์มออนไลน์ประกอบด้วย 1. การที่บริษัทมีทีมงานในการคัดเลือกสินค้าก่อนเข้ามาสู่ระบบการเปรียบเทียบ 2. เราเป็นบริษัทเดียวที่สามารถระบุราคาได้ในทันที เพราะเรามีการจัดตั้งกลุ่มชื่อที่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้ทันที 3. บริษัทมีช่องทางการรับชำระเงินหลายรูปแบบ โดยสามารถที่จะผ่อนจ่ายได้และได้กรมธรรม์ทันทีซึ่งยังไม่มีที่ไหนทำได้
"บริษัทมีพันธมิตรและการคัดสรรสินค้าทางการเงินเพื่อเข้ามาเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนผ่านระบบข้อมูลที่บริษัทจัดเก็บมาทำให้บริษัทได้เปรียบคู่แข่ง ยกตัวอย่างเช่นประกันซึ่งเราจะดูจากข้อมูลว่ารถรุ่นไหนได้รับความนิยมเราก็จะมีพาร์ตเนอร์คอยออกแบบแบบประกันให้แต่ก็ไม่ใช่จะทำหมด เราจะเลือกทำเฉพาะที่เราเก็บข้อมูลไว้แล้ว และสามารถนำมาเปรียบเทียบกับแบบประกันที่มีอยู่ในตลาดได้" นายชยพันธ์กล่าว