นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด (บลจ.วรรณ) เปิดเผยว่า บรรยากาศการลงทุนในปีนี้ยังคงต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงพอสมควร อาทิ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและแนวโน้มของตัวเลขเงินเฟ้อ ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายทางการเงินโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก เช่น สหรัฐฯ ยุโรป ซึ่งการเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายย่อมส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายของเงินทุนต่างชาติ และความผันผวนของการลงทุน ดังนั้น นอกจากการกระจายการลงทุนซึ่งเป็นหัวใจหลักของการลงทุนแล้ว ในปีนี้ควร Selective การลงทุนมากขึ้น โดยเน้นไปที่การลงทุนในกลุ่มที่มีพื้นฐานของรายได้ที่แข็งแกร่งและสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันต้องเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตในระยะยาวด้วย ที่จะเป็นกลุ่มที่สามารถฟื้นตัวได้โดดเด่นหลังเจอความผันผวนของตลาดในระยะสั้น
“โอกาสการลงทุนของปีนี้ เราเล็งเห็นโอกาสสร้างผลตอบแทนในกองทุนประเภท Thematic ที่รับกับ Mega trend ของโลก เป็นธุรกิจที่มีความสามารถในการเติบโตที่ดีในระยะยาว จึงได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิด วรรณ เมดิคอล เทคโนโลยี (ONE-MEDTECH) โดยจะเปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 17-24 มกราคม 2565 ซึ่งกองทุนจะเข้าลงทุนในกองทุนต่างประเทศที่เน้นลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและเครื่องมือทางการแพทย์ชั้นนำของสหรัฐฯ โดย บลจ.วรรณมองว่าแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง แนวโน้มสังคมดิจิทัลเข้า disrupt หลายๆ อุตสาหกรรมในปัจจุบัน ซึ่งโอกาสพัฒนาในสังคมดิจิทัลที่มีอีกมากในอนาคต และความเปลี่ยนแปลงของสภาพสังคม การล็อกดาวน์และการทำงานที่บ้าน ได้เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคทำให้เกิดความต้องการและการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ในทุกสถานที่ไม่จำกัดเพียงแต่ที่โรงพยาบาล อีกทั้งธุรกิจเครื่องมือแพทย์เป็นกลุ่มที่สอดแทรกอยู่ในทุกห่วงโซ่ของการรักษาพยาบาลตั้งแต่การตรวจวินิจฉัยโรค การรักษา จนถึงการป้องกันการเจ็บป่วยในอนาคต รวมถึงเป็นธุรกิจที่มีรายได้ค่อนข้างสม่ำเสมอ และมีความผันผวนต่อสภาวะเศรษฐกิจค่อนข้างจำกัด จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ทำให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีทางการแพทย์มีความน่าสนใจและมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง” นายพจน์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมองว่าการเติบโตของทุกอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเปลี่ยนไป เทคโนโลยีจะสร้างให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ทางการแพทย์กับแพลตฟอร์มบนอินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้าถึงข้อมูลผู้ป่วยในเวลาอันสั้น การเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์ การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ไปจนถึงการค้นพบความต้องการใหม่ๆ ที่เร็วกว่าเดิม ในปัจจุบันตลาดเครื่องมือแพทย์ของสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของมูลค่าตลาดเครื่องมือแพทย์ของโลก และบริษัทจดทะเบียนชั้นนำของโลกที่มีรายได้หลักจากการผลิตและขายอุปกรณ์ทางการแพทย์ส่วนใหญ่ก็อยู่ในสหรัฐฯ
นายพจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทอย่างมีนัยสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรม Healthcare และธุรกิจเครื่องมือแพทย์ ยกตัวอย่าง อุปกรณ์ทางการแพทย์ขนาดเล็ก ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ที่บ้านได้ด้วยตนเองมากขึ้น ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป มีความต้องการบริการทางการแพทย์ในทุกๆ สถานที่ ปัจจุบันเริ่มเห็นการพบแพทย์ออนไลน์ ซึ่งความต้องการเหล่านี้เราเรียกว่า Point-of-card ดังนั้น หากมองในแง่มุมของการลงทุน ถือว่ามีความโดดเด่นมาก
สำหรับ ONE-MEDTECH มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน iShares U.S. Medical Devices ETF กองทุนหลัก บริหารจัดการโดย BlackRock Fund Advisors จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NYSE Arca สหรัฐฯ ซึ่งมีนโยบายการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี Dow Jones U.S. Select Medical Equipment Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดผลการดำเนินงานของกลุ่มอุตสาหกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในหุ้นของบริษัทที่เป็นผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ เช่น เครื่องถ่ายภาพด้วยสนามแม่เหล็ก ขาเทียม เครื่องกระตุ้นหัวใจ เครื่อง X-ray เป็นต้น รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ไม่ใช่อุปกรณ์ใช้แล้วทิ้งอื่นๆ โดยกองทุน ONE-MEDTECH เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการถือลงทุนระยะกลาง-ยาว เพื่อช่วยสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับพอร์ตการลงทุนในระยะข้างหน้า