นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ลูกค้ามีความตื่นตัวและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมากขึ้น ตลอดจนการเตรียมความพร้อมทางการเงินทั้งแผนระยะสั้น แผนระยะยาว ล่าสุดบริษัทฯ ได้มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการแบบ Customer Centric ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน mGrow 615 อีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ต้องจ่ายเบี้ยนาน เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการวางแผนชีวิตเพื่อเป้าหมายที่แน่นอน ในระยะเวลาที่ชัดเจน อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่น สามารถขยายความคุ้มครองได้ สอดคล้องกับการวางแผนชีวิตทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน เพื่อบรรลุเป้าหมายในทุกช่วงของชีวิตอย่างไร้กังวล
ทั้งนี้ จุดเด่นของ mGrow615 คือความชัดเจน จ่ายเบี้ยประกันภัยหลักเพียง 6 ปี คุ้มครองยาว 15 ปี มั่นใจได้กับความคุ้มครองชีวิตต่อเนื่อง 15 ปี แม้มูลค่าการลงทุนจะมีค่าเท่ากับหรือน้อยกว่าศูนย์ โดยรับความคุ้มครองชีวิตจำนวน 3 เท่าของเบี้ยประกันภัยหลักรายปี พร้อมรับโบนัสพิเศษ 2% ของเบี้ยประกันภัยหลักที่ได้รับชำระแล้วทั้งหมด ณ ต้นปีกรมธรรม์ที่ 7 เมื่อไม่ลด ถอน หรือหยุดพักชำระเบี้ยประกันภัยหลัก(1) และสามารถขอขยายความคุ้มครองไปจนถึงอายุครบ 99 ปี(2) เลือกเพิ่มเติมความคุ้มครองสุขภาพและโรคร้ายแรงได้ สามารถสมัครทำประกันได้ถึงอายุ 70 ปี กำหนดเบี้ยประกันภัยได้เอง เริ่มต้นเพียง 20,000 บาทต่อปี เลือกความคุ้มครองได้ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 3-10 เท่าของเบี้ยประกันภัยหลักตามอายุผู้เอาประกันและไม่จำกัดความคุ้มครอง เหมาะสำหรับลูกค้าทุกเพศทุกวัยที่ต้องการวางแผนการเงินเพื่อเป้าหมายชีวิตในอนาคต เช่น คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการวางแผนการศึกษาให้ลูก หรือวัยทำงานที่กำลังวางแผนเก็บเงินสำหรับช่วงวัยเกษียณ เป็นต้น
“mGrow 615 เป็นประกันชีวิตแบบยูนิตลิงค์ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเลือกจัดพอร์ตกองทุนรวมได้หลากหลาย เข้าถึงกองทุนคุณภาพได้ง่าย โดยบริษัทฯ ได้คัดสรรกองทุนรวมศักยภาพจาก บลจ.ชั้นนำ ทั้งยังมีพอร์ตการลงทุนแนะนำที่มีการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ตามระดับความเสี่ยงของลูกค้าให้เลือกลงทุนถึง 5 พอร์ตโฟลิโอ มีการติดตามผลการดำเนินงานและการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์การลงทุน โดยผู้จัดการกองทุนของบริษัทฯ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน เพื่อให้ลูกค้าบรรลุทุกเป้าหมายทางการเงินได้อย่างมั่นใจ” นายสาระกล่าว