xs
xsm
sm
md
lg

กรุงศรีเปิดกองเอเชียไฮยิลด์บอนด์ ทางเลือกทำผลตอบแทนยุคดอกเบี้ยต่ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า “ปัจจุบันเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวเกิดขึ้นทั่วทั้งภูมิภาค โดยคาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียในปี 2021 จะเติบโตอยู่ที่ 8.7% ขณะที่การเติบโตของประเทศพัฒนาแล้วอยู่ที่ 4.9% ประเทศกำลังพัฒนาอยู่ที่ 3.5% (ที่มา:JPM, EM Strategy and Outlook, Blackrock ณ ม.ค. 64) ส่งผลให้การลงทุนใน Asian High Yield มีความน่าสนใจจากศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าตราสารหนี้ทั่วไปรวมถึงตราสารหนี้ High Yield ของภูมิภาคอื่น นอกจากนี้ ระดับราคาปัจจุบันยังมีความน่าสนใจบนประวัติความผันผวนที่น้อยกว่าหุ้น”

ตราสารหนี้ High Yield เป็นตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าตราสารหนี้ระดับ Investment grade จึงมักมีการจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่า และราคาของตราสารก็มีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นจากภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว การลงทุนใน Asian High Yield จึงช่วยกระจายความเสี่ยงจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยได้เป็นอย่างดี เพราะตราสารหนี้ High yield มีความสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ รวมทั้งเพิ่มโอกาสให้เงินลงทุนเติบโตไปพร้อมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชีย และหากพิจารณาเรื่องอัตราการผิดนัดชำระหนี้เมื่อเปรียบเทียบดูแล้วจะเห็นว่าตราสารหนี้ High Yield ของเอเชียมีอัตราผิดชำระหนี้ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ”

จากความน่าสนใจดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นที่มาของการเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีเอเชียนไฮยิลด์บอนด์-สะสมมูลค่า (KFAHYBON-A) ระหว่างวันที่ 18-24 พ.ค. 64 ซึ่งมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนสู้ดอกเบี้ยต่ำที่มาพร้อมโอกาสเติบโตไปกับการฟื้นตัวของเอเชีย ลงทุนในกองทุนหลักที่ลงทุนในกองทุนหลักคือ BGF Asian High Yield Bond Fund ที่ได้รับมอร์นิ่งสตาร์ 5 ดาว*

จุดเด่นของกองทุนหลักคือ พอร์ตการลงทุนหลักมีศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสดระดับสูง ใช้กลยุทธ์การลงทุนเชิงรุกในหลักทรัพย์ที่ราคามีโอกาสเติบโต กระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ มีการจัดสรรน้ำหนักการลงทุนรายอุตสาหกรรมและรายประเทศ โดยสัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน จากภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนที่ชัดเจนกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค และกองทุนหลักมีมุมมองเชิงบวกต่ออสังหาริมทรัพย์ของจีนจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ผู้จัดการกองทุนยังให้ความสำคัญต่อการบริหารความเสี่ยงและสภาพคล่องของกองทุน โดยมีการปรับพอร์ตการลงทุนอย่างรวดเร็วให้ทันสถานการณ์ มีการเพิ่มระดับเงินสด และลด Credit beta ในช่วงที่สภาพตลาดมีความท้าทาย มีประสบการณ์ในการบริหารกลยุทธ์ Asian High Yield มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2552” (ที่มา :BlackRock ณ 31 มี.ค. 64)

บลจ.กรุงศรีเชื่อว่ากองทุน KFAHYBON-A จะมีส่วนช่วยให้ผลตอบแทนรวมของพอร์ตการลงทุนมีโอกาสเติบโตมากขึ้นในยุคดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งลดความผันผวนของพอร์ตที่มีน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเป็นสัดส่วนที่สูงด้วย โดย KFAHYBON-A มีนโยบายลงทุนใน BGF Asian High Yield Bond Fund (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ความเสี่ยงระดับ 6: เสี่ยงสูง และกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน


กำลังโหลดความคิดเห็น