นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า ธีมการลงทุนในพลังงานสะอาด Clean Energy นับเป็นหนึ่งในธีมการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีในปี 2020 ที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ธุรกิจพลังงานสะอาดสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี และมีแนวโน้มจะโตต่อเนื่องไปในอนาคต คือ การที่แต่ละประเทศได้ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เน้นนโยบายที่จะสนับสนุนด้าน Green Energy รวมถึงผู้นำประเทศที่เป็นชาติมหาอำนาจของโลกได้ให้ความสำคัญเป็น Top Agenda หรือวาระสำคัญในการออกข้อบังคับเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งจัดทำเป็นโครงการระยะยาวและสนับสนุนธุรกิจ หรือบริษัทที่เน้นนวัตกรรมการผลิตพลังานสะอาดในทุกด้าน
นายจุมพล กล่าวต่อว่า มองเห็นถึงศักยภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมด้านการผลิตและเทคโนโลยีเกี่ยวกับพลังงาน จึงเปิดตัว ‘กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล คลีน เอ็นเนอร์จี’ หรือ Principal Global Clean Energy (PRINCIPAL GCLEAN) เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) วันที่ 24-30 มีนาคม 2564 สั่งซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท โดยเป็นกองทุนรวมตราสารทุน ประเภท Feeder Fund ที่มีนโยบายลงทุนในกองทุนต่างประเทศเป็นกองทุนหลักเพียงกองทุนเดียว เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทที่ผู้ผลิตพลังงานสะอาดทุกรูปแบบทั่วโลกและเทคโนโลยีที่เกี่ยวเนื่อง เช่น พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานลม, พลังงานน้ำ, พลังงานไฮโดรเจน, พลังงานชีวมวล เป็นต้น
กองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล คลีน เอ็นเนอร์จี จะเข้าลงทุนในกองทุน iShares Global Clean Energy UCITS ETF (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน (Share Class) USD (Dist) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม ESG Leader rating กองทุนได้คะแนนจาก MSCI ESG Quality Score ในระดับคะแนน 7.3 จาก 10 คะแนน จัดอยู่ในกลุ่ม ESG Leader (Blackrock, MSCI ESG Rating score, Dec 2020) รวมทั้งกองทุนได้รับ Morningstar 5 ดาวสำหรับระยะเวลา 3 ปีและ 5 ปี (Morningstar Jan 2021)
ทั้งนี้ iShares เป็นผลิตภัณฑ์กองทุนประเภท Exchange-traded-funds (ETFs) ที่มีมูลค่าสินทรัพย์ที่บริหารจัดการสูงที่สุดในโลก ภายใต้การบริหารโดย BlackRock กองทุนดังกล่าวมีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่โดดเด่นสร้างผลตอบแทนปี 2020 ที่ 141% และย้อนหลัง 3 ปี 48% ต่อปี (เท่ากันกับดัชนีอ้างอิง S&P Global Clean Energy Index ที่ 141% และย้อนหลัง 3 ปี 48% ต่อปี ตำมลำดับ, ที่มา BlackRock, S&P, 31 Jan 2021) โดดเด่นกว่าหุ้นที่ดำเนินธุรกิจพลังงานแบบดั้งเดิม S&P Energy Index ที่ -34% และ -15% ต่อปี ตามลำดับ (ข้อมูล มกราคม 2021 ที่มา BlackRock, S&P)
“ธีมพลังงานสะอาดเป็นหนึ่งในธีมการลงทุนเมกะเทรนด์โลกที่มีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่องในระยะยาว จากแรงสนับสนุนในทุกด้านทั้งภาครัฐและเอกชน โดยธุรกิจกลุ่มพลังงานสะอาดจะครอบคลุม ทั้งบริษัทผู้ผลิตพลังงานทางเลือก ผู้ผลิตนวัตกรรมเทคโนโลยีอุปกรณ์จัดเก็บพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์การพัฒนาระบบในด้านพลังงานให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เราเชื่อว่าธีม Clean Energy นับเป็นทางเลือกการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดีในอนาคต” นายจุมพล กล่าว