xs
xsm
sm
md
lg

เอ็มเอฟซีมั่นใจกองทุนตราสารหนี้น่าลงทุน ให้ผลตอบแทนระยะสั้นดีกว่าเงินฝาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายสดาวุธ เตชะอุบล ประธานคณะกรรมการบริหาร และรักษาการกรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันเหมาะสมที่จะลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ส่งผลให้ธนาคารกลางหลักทั่วโลกและไทยปรับลดดอกเบี้ยฉุกเฉินตามธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมทั้งออกมาตรการซื้อตราสารหนี้เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาด ส่งผลให้เงินฝากในประเทศไทยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลงอยู่ในระดับต่ำ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นโอกาสลงทุนในตราสารหนี้เอกชนคุณภาพสูงและให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าพันธบัตรรัฐบาล นอกจากนี้ การลงทุนในเงินฝากธนาคารต่างประเทศที่มีสถานะการเงินแข็งแกร่งและมีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) เช่น ธนาคารในประเทศจีน และประเทศกาตาร์ ให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าเงินฝากในประเทศ

เอ็มเอฟซีเปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี กาญจนทรัพย์ 6 ซีรี่ส์ 6 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (MKAI6S6) เสนอขายวันที่ 29 เมษายน 2563 โดยเป็นกองทุนตราสารหนี้ภาครัฐ ภาคเอกชน เงินฝาก ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ อายุโครงการประมาณ 6 เดือน มูลค่าขั้นต่ำของการลงทุน 500,000 บาท ประมาณการผลตอบแทนในอัตราเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 1.30 ต่อปีของมูลค่าหน่วยลงทุนที่ตราไว้ (10 บาท) เมื่อครบอายุกองทุนบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมด และสับเปลี่ยนไปยังกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พันธบัตรตลาดเงินหรือกองทุนเปิด MM-GOV


กองทุนเปิด MKAI6S6 เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ และ/หรือเอกชน เงินฝาก ที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ที่ออกโดยนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ เงินฝาก และตราสารหนี้เอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade) เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินแบบเต็มจำนวน (Fully hedge) ทั้งนี้ ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 6 เดือนได้ และกองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออก ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนเป็นจำนวนมาก


ตราสารที่คาดว่าจะลงทุนดังนี้ (1) เงินฝากประจำ : Agriculture bank of china rating Moody’s : A1 สัดส่วนการลงทุน 6.00% ผลตอบแทนตราสาร 1.08% ต่อปี ผลตอบแทนที่กองทุนคาดว่าจะได้รับ 0.06% ต่อปี (2) เงินฝากประจำ : Bank of China rating Moody’s : A1 สัดส่วนการลงทุน 18.00% ผลตอบแทนตราสาร 1.43% ต่อปี ผลตอบแทนที่กองทุนคาดว่าจะได้รับ 0.26% ต่อปี (3) เงินฝากประจำ: Alkhaliji rating Moody’s : A2 สัดส่วนการลงทุน 19.00% ผลตอบแทนตราสาร 1.18% ต่อปี ผลตอบแทนที่กองทุนคาดว่าจะได้รับ 0.22% ต่อปี (4) เงินฝากประจำ : Doha Bank rating Moody’s : Baa1 สัดส่วนการลงทุน 19.00% ผลตอบแทนตราสาร 1.73% ต่อปี ผลตอบแทนที่กองทุนคาดว่าจะได้รับ 0.33% ต่อปี (5) ตั๋วแลกเงิน : บริษัทแผ่นดินทองพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) rating TRIS : A-สัดส่วนการลงทุน 19.00% ผลตอบแทนตราสาร 1.88% ต่อปี ผลตอบแทนที่กองทุนคาดว่าจะได้รับ 0.36% ต่อปี (6) ตั๋วแลกเงิน : บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) rating TRIS : BBB+ สัดส่วนการลงทุน 19.00% ผลตอบแทนตราสาร 1.93 % ต่อปี ผลตอบแทนที่กองทุนคาดว่าจะได้รับ 0.37% ต่อปี ทั้งนี้ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารอื่นแทนหรือเพิ่มเติม

ประมาณการผลตอบแทนรวมที่ได้รับจากการลงทุน 1.60% ต่อปี ประมาณการค่าใช้จ่าย 0.30% ต่อปี และประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่าย 1.30% ต่อปี หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาด บริษัทจัดการอาจไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนตามอัตราดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น