วรรณเปิดกอง SSFX เชื่อเหมาะลงทุนระยะยาว-ลดหย่อนภาษี เน้นกลยุทธ์ลงทุนหุ้นไทยแบบยืดหยุ่น และแอ็กทีฟด้วยการคัดหุ้นใหญ่-กลาง เชื่อน่าลงทุนช่วงราคาย่อตัว
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้เปิดเสนอขายครั้งแรก กองทุนเปิด วรรณ สนับสนุนตลาดทุนไทย เพื่อการออม หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออมพิเศษ (ONE-TCMSSF-SSFX) วันนี้ ถึง 21 เม.ย.นี้ นโยบายกองทุน ลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและหรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ไม่น้อยกว่า 65% สำหรับเกณฑ์ลดหย่อนไม่อ้างอิงรายได้และสูงสุดไม่เกิน 2 แสนบาทต่อปี โดยไม่ต้องรวมกับกองทุน RMF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันบำนาญ และกองทุนเกษียณอื่นๆ
“บลจ.วรรณ ในฐานะสมาชิกบริษัทจัดการลงทุนมีความยินดีจะร่วมเสนอขายกองทุนสนับสนุนตลาดทุน เป็นอีกหนึ่งกลไกสำหรับการลงทุนในระยะยาว ซึ่งวัตถุประสงค์ของการเสนอขายกองทุนนี้เป็นการลงทุนในระยะยาว ดังนั้น นโยบายลงทุนจะมีความยืดหยุ่น โดยกองทุนสามารถถปรับสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้ระหว่าง 80-100% เพื่อให้มีความเหมาะสมกับภาวะตลาดในแต่ละช่วง และจะเน้นลงทุนในหุ้นไทยขนาดใหญ่และขนาดกลางซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว และมีขีดความสามารถในการแข่งขัน และอาจมีการลงทุนในหุ้นไทยขนาดเล็กเพื่อผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น โดยจะเน้นบริหารจัดการเชิงรุก (Active Management) กระจายการลงทุน 20-40 หลักทรัพย์ ทั้งนี้ กองทุน ONE-TCMSSF-SSFX จะเสนอขายช่วงหลัง IPO ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.-30 มิ.ย. 63” นายพจน์กล่าว
ขณะที่มุมมองการลงทุนในช่วงนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมามากในช่วงที่ผ่านมา เป็นจังหวะที่ทยอยเข้าสะสมได้ โดยหากพิจารณาในเชิงของ Valuation ของ SET น่าสนใจ ที่ระดับ PE ประมาณ 13 เท่า และอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 4% ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค ในส่วนของปัจจัยสนับสนุนอื่น บลจ.วรรณ มองว่าตัวเลขเศรษฐกิจโลกและอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงจากผลกระทบจากการระบาดของ Covid-19 ทำให้ธนาคารกลางหลายประเทศมีแนวโน้มดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น รวมถึงมีมาตรการทางการคลังออกมาต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยจำกัด Downside ของตลาดได้อีกทางหนึ่ง ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่ผ่านไปแล้ว คาดว่าจะมีการเร่งรัดและเปิดประมูลมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้หากสถานการณ์ไวรัสสามารถควบคุมได้ ในส่วนของค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าต่อ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงและผลกระทบจากการระบาดของไวรัส Covid-19 ทั่วโลกต่อเศรษฐกิจ ส่งผลให้ค่าเงินในตลาดเกิดใหม่อ่อนค่า ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อภาคการส่งออก นอกจากนี้ มาตรการทางภาครัฐ ทั้งมาตรการด้านการเงิน ภาษี รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือตลาดทุนด้วยการให้นำเงินกองทุน SSF และ กองทุน SSFX นำมาหักภาษีได้ 4 แสนบาท ระยะเวลาลงทุน10 ปี ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยหนุนระยะสั้นต่อตลาด
นายพจน์กล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.วรรณคาดการณ์เป้าหมายของดัชนีปีนี้ในกรอบ 1,130-1,280 จุด โดยกรอบบนบริษัทคาดการณ์บนสมมติฐานหากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ระบาดทั่วโลกถูกควบคุมได้ภายในเดือน พ.ค. กิจกรรมการผลิตของจีนทยอยกลับสู่ภาวะปกติในไตรมาส 2 ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ยังให้น้ำหนักเกี่ยวกับปัจจัยอัตราดอกเบี้ย โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.5% ช่วงครึ่งปีแรก ควบคู่กับมาตรการทางการคลังเพื่อเยียวยาและสนับสนุน ด้านกรอบล่าง คาดการณ์บนสมมติฐานปัจจัยต่างประเทศยังคงเผชิญกับเศรษฐกิจถดถอยเชิงเทคนิคในบางประเทศสำคัญ ราคาน้ำมันไร้เสถียรภาพ ด้านปัจจัยในประเทศ ภาคการท่องเที่ยวซบเซาต่อเนื่องจนถึงครึ่งปีหลัง ภัยแล้งกระทบรายได้ครัวเรือนในภาคเกษตร และความไม่สงบทางการเมืองเป็นอุปสรรคต่อกิจกรรมของรัฐบาล อย่างไรก็ดี ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนของเดือนนี้ มีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มอาหาร