xs
xsm
sm
md
lg

ทิสโก้แนะลงทุนหุ้นสหรัฐฯ ตลาดยุโรปไม่นิ่งเลี่ยงลงทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - กูรูทิสโก้มองนโยบายคลังของนายทรัมป์เป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ แนะกลุ่ม Health Care ที่นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลต่อข้อเสนอการควบคุมราคายา ด้านตลาดการลงทุนของยุโรปควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในช่วงนี้เนื่องจากมีความผันผวนทางการเมืองในหลายประเทศ

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr. Komsorn Prakobpol, Head of Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit : TISCO ESU) กล่าวว่า นโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ จะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากนโยบายการคลัง เช่น การลดภาษี และแผนการใช้จ่ายภาครัฐฯ ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ จะส่งผลให้ GDP สหรัฐฯ กลับมาเติบโตได้เกิน 3% ในปีหน้า ส่วนด้านนโยบายภาษี เราประเมินว่าสภาคองเกรสจะอนุมัติให้ลดอัตราภาษีนิติบุคคลลงเหลือ 25% จาก 35% ในปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนในดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 8% โดยประมาณ

ในรายอุตสาหกรรม ESU คาดว่าหุ้นในกลุ่ม Health Care เช่นอุตสาหกรรมยา จะได้รับผลบวกจากการคลายความกังวลต่อข้อเสนอการควบคุมราคายา ซึ่งเป็นนโยบายหลักของนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ส่วนกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงานอาจได้รับผลบวกจากการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกิจตามข้อเสนอของนายทรัมป์

อย่างไรก็ดี ด้านตลาดหุ้นยุโรป ความเสี่ยงทางการเมืองจะกดดันตลาดหุ้นในยุโรปในช่วงปลายปีนี้ไปจนตลอดถึงปีหน้า โดยจะมีเหตุการณ์สำคัญ เช่น การทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญของอิตาลีในวันที่ 4 ธ.ค. ซึ่งหากไม่ผ่านความเห็นชอบจากประชาชนก็อาจจุดชนวนให้เกิดการล้มรัฐบาล และเปิดโอกาสให้พรรค Five Star Movement (M5S) ที่มีนโยบายต่อต้านสหภาพยุโรปได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อไป

นอกจากนี้ ในปีหน้ายังมีการเลือกตั้งในหลายประเทศ เช่น การเลือกตั้งทั่วไปของเนเธอร์แลนด์ในเดือน มี.ค. การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในเดือน เม.ย. และการเลือกตั้งทั่วไปของเยอรมนีในเดือน ก.ย. รวมไปถึงความไม่แน่นอนจากการเจรจา Brexit ซึ่งจะเริ่มต้นในช่วงไตรมาส 1 ปีหน้า เราเชื่อว่าปัจจัยทางการเมืองเหล่านี้จะกดดันเศรษฐกิจยุโรป โดยเฉพาะด้านการลงทุนและการบริโภค เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มสูงขึ้น

ESU แนะนำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากเศรษฐกิจและผลกำไรจะได้รับผลบวกจากนโยบายการคลังของนายทรัมป์ และให้ทยอยลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นยุโรป เพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองซึ่งจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น