บลจ.วรรณเชื่อมั่นเศรษฐกิจประเทษไทยยังแข็งแกร่ง พร้อมเปิดเสนอขายกองทุนเปิด วรรณ แอนไท คอรัปชั่น 70 หุ้นระยะยาว รับเงินลงทุนกอง LTF ไตรมาส 4 เน้นลงทุนหุ้นที่คัดกรองด้านธรรมาภิบาลและฐานะการเงินแข็งแกร่ง
นายศักดา มาณวพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า ปีนี้ภาครัฐได้มีมาตรการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของภาษีซึ่งเป็นประโยชน์โดยตรงและช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย ได้แก่ การปรับโครงสร้างเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนเสียภาษีได้น้อยลง รวมถึงการต่ออายุของกองทุน LTF ซึ่งนอกเหนือจากการต่ออายุสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีก 3 ปีที่เงินลงทุนสามารถลดหย่อนภาษีได้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนสามารถเสนอผลิตภัณฑ์กองทุน LTF ใหม่เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่กลุ่มผู้ลงทุนและสร้างรายได้ที่ยั่งยืนเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับการลงทุนในหน่วยลงทุนระยะยาว บริษัทเปิดขายกองทุนเปิด วรรณ แอนไท คอรัปชั่น 70 หุ้นระยะยาว เน้นคัดเลือกหุ้นที่มีธรรมาภิบาลที่ดีควบคู่ไปกับการเติบโตของราคาจากปัจจัยพื้นฐานเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน
นายมณฑล จุนชยะ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น โดยได้รับแรงสนับสนุนจากภาคเอกชนที่ปรับตัวดีตามการฟื้นตัวของรายได้ครัวเรือน ภาคเกษตร นอกเหนือจากการใช้จ่ายภาครัฐและการท่องเที่ยวที่เป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจแล้ว ยังมีการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่เร่งตัวขึ้น
สำหรับโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้นไทย บริษัทมองว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นำโดยเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ประกอบกับมาตการผ่อนคลายทางการเงินของเศรษฐกิจประเทศญี่ปุ่นและยูโรโซน จะส่งผลต่อสภาพคล่องในระะบบยังมีอยู่มาก และส่งผลเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทมองว่าในระดับดัชนีปัจจุบันเป็นระดับที่เหมาะสมและสามารถทยอยเข้าซื้อสะสมเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงที่ดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 1,450 จุด โดยหุ้นที่กองทุน ONE-ACT จะพิจารณาเลือกลงทุนจะต้องผ่านการประเมิน Good Corporate Governance ผ่านดัชนีชี้วัดจาก 3 สถาบัน ได้แก่ คณะกรรมการบริษัทภิบาลแห่งชาติ (IOD) และสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พร้อมทั้งโครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต
จากการทำการทดสอบย้อนหลัง โดยใช้หลักการ Equally weight ลงทุนในหุ้น 70% ตราสานหนี้ 30% พบว่าในช่วงเดือนสิงหาคม 2559 ตลาดหุ้นปรับตัวดี หุ้นกลุ่มดังกล่าวสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด โดยให้ผลตอบแทน 18.96% ขณะที่ SET index และ SET 50 ให้ผลตอบแทน 14.48% และ 14.92% ตามลำดับ ขณะที่ในปี 2558 ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอย่างมาก