บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด เสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ สมาร์ท เทรด 555 ฟันด์ บี (SCBST555B) มีนโยบายลงทุนตราสานหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน โดยเน้นลงทุนในตลาดหุ้นไทยซึ่งใช้กลยุทธ์การคัดเลือกหุ้นรายตัวเป็นหลัก มุ่งสร้างผลตอบแทนจากความสามาารถในการเลือกหุ้นที่เอาชนะตลาดได้เป็นสำคัญ
นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ไทยพาณิชย์อยู่ระหว่างการเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ สมาร์ท เทรด 555 ฟันด์ บี (SCBST555B) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท ด้วยมูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ระหว่างวันนี้-25 สิงหาคม 2559 ซึ่งเป็นกองทุนทริกเกอร์ที่บริหารโดยใช้กลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง (Hedge Strategy) มาช่วยลดความผันผวนของตลาด ที่เรียกกันว่า "Absolute Return" ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในทุกสภาวะตลาด ไม่ว่าจะเป็นตลาดขาขึ้น ขาลง หรือ side-way ไม่จำเป็นต้องอาศัยการจับจังหวะการลงทุน Market Timing แบบกองทริกเกอร์ที่ผ่านมา เนื่องจากใช้ตราสารอนุพันธ์ในการบริหารความเสี่ยงจากปัจจัยของตลาด
กองทุน SCBST555B มีนโยบายกระจายการลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน เงินฝาก หน่วยลงทุนของกองทุน เช่น กองทุนรวมทองคำ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และ/หรือกองทุนอีทีเอฟ (ETF) เป็นต้น โดยกองทุนจะพิจารณาปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ซึ่งสัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุนและตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนหรือมีไว้ในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (Efficient portfolio management)
ทั้งนี้ เบื้องต้นกองทุน SCBST555B เน้นลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งใช้กลยุทธ์ Stock Selection คือการคัดเลือกหุ้นรายตัวเป็นหลัก และมุ่งสร้างผลตอบแทนจากความสามารถในการเลือกหุ้นที่เอาชนะตลาดได้เป็นสำคัญ โดยมีโอกาสรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ 2 ครั้งภายในระยะเวลา 1 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด ครั้งแรกเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.50 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 5.00 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท) และครั้งที่ 2 กรณีหากมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 11.3626 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน และสามารถรับซื้อคืนอัตโนมัติได้ไม่ต่ำกว่า 11.1486 บาทต่อหน่วย นอกจากนี้ยังมีนโยบายตัดขาดทุนเพื่อคืนเงินให้ผู้ถือหน่วย หาก ณ วันทำการใดที่มูลค่าหน่วยลงทุนน้อยกว่าหรือเท่ากับ 9.5000 บาทต่อหน่วย
สำหรับผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCBAM Call Center โทร. 0-2777-7777 กด 0 กด 6 หรือธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา