ที่ผ่านมาจารย์ตี่ชอบเล่าถึงวิธีต่างๆ ในการทำกำไรจากตลาดหุ้น วันนี้เลยมานั่งคิดว่า น่าจะถอยหลังออกมาเล่าภาพรวมสักหน่อย ว่าทำไมเราต้องลงทุนด้วย และชีวิตกับการลงทุนมีจุดสมดุลอย่างไร วงจรการหมุนเวียนของเงินในแต่ละบุคคลสำหรับคนทำงานแล้ว ส่วนใหญ่ในแต่ละเดือนแต่ละปีจะมีรูปแบบการไหลของเงินตามรูปด้านล่าง
หลายๆ คนอาจบอกว่า ตรงแค่ 2 ช่องทางด้านซ้าย เพราะเป็นคนสมถะ มีเท่าไหร่ใช้เท่านั้น พอมีรายได้มาก็ใช้จ่ายหมดพอดี ส่วน 3 กล่องด้านขวาไม่ต้องพูดถึง อันตรายสุดๆ นะครับ เพราะช่วงวัยต่างๆ ของมนุษย์นั้นมีหน้าที่แตกต่างกัน เหมือนช่วงฤดูกาลของมดครับ ใครเคยฟังนิทานอิสปตอนเด็ก เรื่องมดกับตั๊กแตน จะรู้ว่ามดที่อดทนเก็บออมเสบียงอาหารไว้ กับตั๊กแตนที่พอมีพอกินตอนหน้าร้อนนั้น พอถึงหน้าหนาวชีวิตทั้งคู่แตกต่างกันอย่างไร
ช่วงฤดูหนาวในเรื่องก็เหมือนช่วงเกษียณของเรานั่นเองครับ ที่ไม่สามารถออกไปหาอาหารใหม่ หรือออกไปทำงานหารายได้เช่นที่ผ่านมาได้ ดังนั้นจึงต้องเก็บเสบียงไว้ให้พร้อมก่อนวันนั้นจะมาถึงครับ จะทำได้ก็อาศัย 3 ช่องด้านขวานั่นเอง
นักการเงินคิดไว้ให้เสร็จแล้วว่าเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต (สุขกับการใช้จ่ายหาในปัจจุบัน และเหลือเงินออมพอไว้หาความสุขต่อในอนาคต) โดยแนะนำว่าควรออมไม่ต่ำกว่า 10% ของรายได้ครับ เช่น มีรายรับเดือนละ 2 หมื่นบาท ก็ไม่ควรออมน้อยกว่า 2 พันบาท (แต่ถ้าใครออมมากกว่านี้แล้ว ยังมีความสุข ก็ยิ่งดีครับ)
ไฮไลต์ของแผนภาพนี้ก็คือ วันที่ ช่องผลตอบแทน โตขึ้นจนมากกว่าช่องใช้จ่าย ถึงวันนี้เราสามารถบายพาสเส้นทางการหมุนเวียนของเงินให้เป็นดังรูปด้านล่างแทน
ภาพที่เห็นเป็นวงจรการหมุนเวียนของเงินในฝันครับ เพราะหากใครมาถึงจุดนี้ได้แล้วก็เรียกได้ว่ามีอิสรภาพทางการเงิน หรือ Financial Freedom คือจะทำงานหรือหยุดทำงานก็ได้ เพราะชีวิตไม่ต้องพึ่งพิงรายได้จากการทำงานอีกต่อไป (เท่กว่า การหยุดทำงานเพราะเกษียณ เนื่องจากร่างกายทำต่อไปไม่ไหวเยอะเลยครับ)
**ห่านทองคำกับอิสรภาพทางการเงิน**
นักลงทุนบางท่านอาจสร้างกำไรจากการลงทุนในหุ้นได้ด้วยการหาหุ้นดีหุ้นเด็ดหรือจากข่าว (ที่เชื่อว่าเป็นวงใน) เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา อันนี้ถือเป็นรายได้ครับ เพราะนอกจากเงินแล้ว นักลงทุนยังต้องทุ่มเทเวลาลงไปด้วย
ดังนั้น การเป็นไทที่แท้จริงตามแนวคิดนี้ คือการปล่อยให้ห่านวิเศษผลิตไข่ทองคำออกมา ส่วนเราค่อยรับไข่ทองคำมาใช้ ไม่ใช่การกินเนื้อห่านแล้วต้องคอยตามจับตัวใหม่อยู่ร่ำไป (แนวคิดนี้ถูกนำเสนอครั้งแรกโดยคุณเทพ รุ่งธนาภิรมย์)
**สร้างฟาร์มห่านง่ายๆ ใครก็ทำได้**
ได้แนวคิดไปแล้ว คราวนี้เพื่อให้นักลงทุนมือใหม่ หรือใครๆ ก็ตามที่อยากเริ่มออมหุ้นห่านทองคำ ทำได้แบบง่ายๆ จารย์ตี่เลยลองมากำหนดเงื่อนไขที่จับต้องได้ เอาแบบมีเกณฑ์ที่ชัดๆ ไปเลย (แน่นอนว่า การวิเคราะห์ด้วยประสบการณ์ มีโอกาสได้รับผลลัพธ์ที่ดีกว่าครับ เพียงแต่วิธีที่จะนำเสนอมีรูปแบบง่ายๆ เป็นแนวทางสำหรับผู้เริ่มต้นครับ)
1) ห่านต้องโต เลือกเฉพาะบริษัทที่มีกำไร และมีค่า ROE ไม่ต่ำกว่า 20% ตลอด 3 ปี ล่าสุด
เพื่อไม่ให้มีการซื้อขายบ่อยครั้งเกินไปและสามารถปฏิบัติได้จริง จารย์ตี่จะยึดจากค่า ROE ของงบรายปี (ม.ค.-ธ.ค.) โดยการเลือกจะทำ ณ สิ้นเดือนมีนาคมของปีถัดไป (ให้แน่ใจว่างบออกหมดแล้ว)
2) ห่านต้องออกไข่ นำหุ้นที่ได้ในข้อ 1) มากรองเอาเฉพาะบริษัทที่มีการจ่ายปันผล ตลอด 3 ปีล่าสุด
3) ไข่ฟองใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวห่าน นำหุ้นที่ได้ในข้อ 2) มาจัดลำดับตาม Dividend Yield ของปีล่าสุด แบ่งเงินลงทุนเป็น 10 ส่วน ลงทุนในหุ้น 10 ลำดับแรก
4) การซื้อขายปีละครั้ง ซื้อในวันแรกของเดือนเมษายน แล้วถือไปขายวันสุดท้ายของเดือนมีนาคมในปีถัดไป จากนั้นเริ่มทำข้อ 1) ใหม่
**ผลประกอบการของฟาร์มห่านทองคำ**
ตามแบบฉบับของจารย์ตี่ครับ คิดแล้วต้องทดสอบ จากข้อมูล 12 ปี คืองบตั้งแต่ปี 2004-2015 งานนี้จารย์ตี่ตาลายเลยครับ ต้องมานั่งจัดลำดับ แล้วเลือก พร้อมทั้งติดตามการจ่ายปันผล การเพิ่มลดพาร์ การแจกหุ้นปันผล แต่พอได้เห็นผลลัพธ์ออกมา บอกได้คำเดียวครับว่า คุ้มค่าเหนื่อยที่ลงมือทดสอบกลยุทธ์นี้จริงๆ สำหรับท่านนักลงทุนก็ไม่ต้องเหนื่อยครับ ดูผลลัพธ์ได้เลย
จารย์ตี่พล็อตเทียบกับดัชนี พบว่าเมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี ดัชนีโตขึ้นราว 2 เท่า แต่พอร์ตของฟาร์มห่านทองคำโตขึ้น 4 เท่า เทียบกับความพยายามหรือแรงที่ใช้ในการลงทุนปีละครั้งแล้วสุดแสนจะคุ้มครับ เพิ่มประสิทธิภาพของฟาร์มห่านจารย์ตี่ขอแถมเกร็ดเล็กน้อย เพื่อให้ฟาร์มห่านของท่านมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
1. ออมเร็ว ออมเพิ่ม การสร้างฟาร์มยิ่งเร็วยิ่งดี และนอกจากรอแต่ไข่ทองคำแล้ว หากแบ่งรายได้จากการทำงานมาซื้อห่านเพิ่มอยู่เสมอ จะยิ่งช่วยให้ถึงเป้าหมายไว
2. ตกแต่งฟาร์มอยู่เสมอ จากตัวอย่างเพื่อให้ง่ายจึงอิงงบแบบปีละครั้ง นักลงทุนอาจปรับพอร์ตให้บ่อยขึ้น เพื่อให้ในฟาร์มมีห่านที่แข็งแรงสมบูรณ์ สมราคาอยู่ตลอดเวลา เช่น หากมีห่านในฟาร์ม 2 พันธุ์ ซึ่งให้ไข่ทองคำพอๆ กัน แต่บังเอิญในตลาดกำลังนิยมพันธุ์แรกจนราคาแพงกว่าพันธุ์ที่สองมาก ก็ให้นำพันธุ์แรกที่มีไปขายแล้วนำเงินมาซื้อห่านพันธุ์ที่สองซึ่งราคาถูกกว่าแทน แบบนี้ในฟาร์มจะได้ห่านรวมเยอะขึ้น และทำให้มีไข่ทองคำมากขึ้นอีกด้วยครับ (ใช้ PE, PBV, Dividend Yield ดูประกอบ)
เรื่องที่จารย์ตี่เล่าวันนี้ แม้ไม่ใช่เทคนิคที่ทำให้พอร์ตโตแบบมากมาย แต่ทำให้ชีวิตดี๊ดี คือค่อยๆ เก็บปันผลไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องเครียดว่าราคาจะขึ้นหรือลง ส่วนใครกลัวชีวิตขาดสีสัน จะแบ่งเงินอีกส่วนไว้เทรดตามเทคนิคที่จารย์ตี่เคยเล่าไว้แล้วในฉบับก่อนๆ ก็ไม่ผิดแต่อย่างใดครับ
สนใจติดตามเรื่องหลักการลงทุนแบบนี้ ติดต่อไปที่ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน 0-2659-8333 แจ้งว่าขอรับบทความ Trading Wizard ซึ่งผมจะส่งทาง E-mail ทุกสัปดาห์ครับ หรือติดตาม update ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของเราได้ที่ www.utrade.co.th และ www.facebook.com/uobkayhian.th
เรื่องโดย : ชาญวุฒิ สิทธิพงศ์พิทยา (จารย์ตี่)
Assistant Vice President, UOB Kay Hian Securities (Thailand) PCL.
chanwut@uobkayhian.co.th
หลายๆ คนอาจบอกว่า ตรงแค่ 2 ช่องทางด้านซ้าย เพราะเป็นคนสมถะ มีเท่าไหร่ใช้เท่านั้น พอมีรายได้มาก็ใช้จ่ายหมดพอดี ส่วน 3 กล่องด้านขวาไม่ต้องพูดถึง อันตรายสุดๆ นะครับ เพราะช่วงวัยต่างๆ ของมนุษย์นั้นมีหน้าที่แตกต่างกัน เหมือนช่วงฤดูกาลของมดครับ ใครเคยฟังนิทานอิสปตอนเด็ก เรื่องมดกับตั๊กแตน จะรู้ว่ามดที่อดทนเก็บออมเสบียงอาหารไว้ กับตั๊กแตนที่พอมีพอกินตอนหน้าร้อนนั้น พอถึงหน้าหนาวชีวิตทั้งคู่แตกต่างกันอย่างไร
ช่วงฤดูหนาวในเรื่องก็เหมือนช่วงเกษียณของเรานั่นเองครับ ที่ไม่สามารถออกไปหาอาหารใหม่ หรือออกไปทำงานหารายได้เช่นที่ผ่านมาได้ ดังนั้นจึงต้องเก็บเสบียงไว้ให้พร้อมก่อนวันนั้นจะมาถึงครับ จะทำได้ก็อาศัย 3 ช่องด้านขวานั่นเอง
นักการเงินคิดไว้ให้เสร็จแล้วว่าเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต (สุขกับการใช้จ่ายหาในปัจจุบัน และเหลือเงินออมพอไว้หาความสุขต่อในอนาคต) โดยแนะนำว่าควรออมไม่ต่ำกว่า 10% ของรายได้ครับ เช่น มีรายรับเดือนละ 2 หมื่นบาท ก็ไม่ควรออมน้อยกว่า 2 พันบาท (แต่ถ้าใครออมมากกว่านี้แล้ว ยังมีความสุข ก็ยิ่งดีครับ)
ไฮไลต์ของแผนภาพนี้ก็คือ วันที่ ช่องผลตอบแทน โตขึ้นจนมากกว่าช่องใช้จ่าย ถึงวันนี้เราสามารถบายพาสเส้นทางการหมุนเวียนของเงินให้เป็นดังรูปด้านล่างแทน
ภาพที่เห็นเป็นวงจรการหมุนเวียนของเงินในฝันครับ เพราะหากใครมาถึงจุดนี้ได้แล้วก็เรียกได้ว่ามีอิสรภาพทางการเงิน หรือ Financial Freedom คือจะทำงานหรือหยุดทำงานก็ได้ เพราะชีวิตไม่ต้องพึ่งพิงรายได้จากการทำงานอีกต่อไป (เท่กว่า การหยุดทำงานเพราะเกษียณ เนื่องจากร่างกายทำต่อไปไม่ไหวเยอะเลยครับ)
**ห่านทองคำกับอิสรภาพทางการเงิน**
นักลงทุนบางท่านอาจสร้างกำไรจากการลงทุนในหุ้นได้ด้วยการหาหุ้นดีหุ้นเด็ดหรือจากข่าว (ที่เชื่อว่าเป็นวงใน) เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา อันนี้ถือเป็นรายได้ครับ เพราะนอกจากเงินแล้ว นักลงทุนยังต้องทุ่มเทเวลาลงไปด้วย
ดังนั้น การเป็นไทที่แท้จริงตามแนวคิดนี้ คือการปล่อยให้ห่านวิเศษผลิตไข่ทองคำออกมา ส่วนเราค่อยรับไข่ทองคำมาใช้ ไม่ใช่การกินเนื้อห่านแล้วต้องคอยตามจับตัวใหม่อยู่ร่ำไป (แนวคิดนี้ถูกนำเสนอครั้งแรกโดยคุณเทพ รุ่งธนาภิรมย์)
**สร้างฟาร์มห่านง่ายๆ ใครก็ทำได้**
ได้แนวคิดไปแล้ว คราวนี้เพื่อให้นักลงทุนมือใหม่ หรือใครๆ ก็ตามที่อยากเริ่มออมหุ้นห่านทองคำ ทำได้แบบง่ายๆ จารย์ตี่เลยลองมากำหนดเงื่อนไขที่จับต้องได้ เอาแบบมีเกณฑ์ที่ชัดๆ ไปเลย (แน่นอนว่า การวิเคราะห์ด้วยประสบการณ์ มีโอกาสได้รับผลลัพธ์ที่ดีกว่าครับ เพียงแต่วิธีที่จะนำเสนอมีรูปแบบง่ายๆ เป็นแนวทางสำหรับผู้เริ่มต้นครับ)
1) ห่านต้องโต เลือกเฉพาะบริษัทที่มีกำไร และมีค่า ROE ไม่ต่ำกว่า 20% ตลอด 3 ปี ล่าสุด
เพื่อไม่ให้มีการซื้อขายบ่อยครั้งเกินไปและสามารถปฏิบัติได้จริง จารย์ตี่จะยึดจากค่า ROE ของงบรายปี (ม.ค.-ธ.ค.) โดยการเลือกจะทำ ณ สิ้นเดือนมีนาคมของปีถัดไป (ให้แน่ใจว่างบออกหมดแล้ว)
2) ห่านต้องออกไข่ นำหุ้นที่ได้ในข้อ 1) มากรองเอาเฉพาะบริษัทที่มีการจ่ายปันผล ตลอด 3 ปีล่าสุด
3) ไข่ฟองใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวห่าน นำหุ้นที่ได้ในข้อ 2) มาจัดลำดับตาม Dividend Yield ของปีล่าสุด แบ่งเงินลงทุนเป็น 10 ส่วน ลงทุนในหุ้น 10 ลำดับแรก
4) การซื้อขายปีละครั้ง ซื้อในวันแรกของเดือนเมษายน แล้วถือไปขายวันสุดท้ายของเดือนมีนาคมในปีถัดไป จากนั้นเริ่มทำข้อ 1) ใหม่
**ผลประกอบการของฟาร์มห่านทองคำ**
ตามแบบฉบับของจารย์ตี่ครับ คิดแล้วต้องทดสอบ จากข้อมูล 12 ปี คืองบตั้งแต่ปี 2004-2015 งานนี้จารย์ตี่ตาลายเลยครับ ต้องมานั่งจัดลำดับ แล้วเลือก พร้อมทั้งติดตามการจ่ายปันผล การเพิ่มลดพาร์ การแจกหุ้นปันผล แต่พอได้เห็นผลลัพธ์ออกมา บอกได้คำเดียวครับว่า คุ้มค่าเหนื่อยที่ลงมือทดสอบกลยุทธ์นี้จริงๆ สำหรับท่านนักลงทุนก็ไม่ต้องเหนื่อยครับ ดูผลลัพธ์ได้เลย
จารย์ตี่พล็อตเทียบกับดัชนี พบว่าเมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี ดัชนีโตขึ้นราว 2 เท่า แต่พอร์ตของฟาร์มห่านทองคำโตขึ้น 4 เท่า เทียบกับความพยายามหรือแรงที่ใช้ในการลงทุนปีละครั้งแล้วสุดแสนจะคุ้มครับ เพิ่มประสิทธิภาพของฟาร์มห่านจารย์ตี่ขอแถมเกร็ดเล็กน้อย เพื่อให้ฟาร์มห่านของท่านมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
1. ออมเร็ว ออมเพิ่ม การสร้างฟาร์มยิ่งเร็วยิ่งดี และนอกจากรอแต่ไข่ทองคำแล้ว หากแบ่งรายได้จากการทำงานมาซื้อห่านเพิ่มอยู่เสมอ จะยิ่งช่วยให้ถึงเป้าหมายไว
2. ตกแต่งฟาร์มอยู่เสมอ จากตัวอย่างเพื่อให้ง่ายจึงอิงงบแบบปีละครั้ง นักลงทุนอาจปรับพอร์ตให้บ่อยขึ้น เพื่อให้ในฟาร์มมีห่านที่แข็งแรงสมบูรณ์ สมราคาอยู่ตลอดเวลา เช่น หากมีห่านในฟาร์ม 2 พันธุ์ ซึ่งให้ไข่ทองคำพอๆ กัน แต่บังเอิญในตลาดกำลังนิยมพันธุ์แรกจนราคาแพงกว่าพันธุ์ที่สองมาก ก็ให้นำพันธุ์แรกที่มีไปขายแล้วนำเงินมาซื้อห่านพันธุ์ที่สองซึ่งราคาถูกกว่าแทน แบบนี้ในฟาร์มจะได้ห่านรวมเยอะขึ้น และทำให้มีไข่ทองคำมากขึ้นอีกด้วยครับ (ใช้ PE, PBV, Dividend Yield ดูประกอบ)
เรื่องที่จารย์ตี่เล่าวันนี้ แม้ไม่ใช่เทคนิคที่ทำให้พอร์ตโตแบบมากมาย แต่ทำให้ชีวิตดี๊ดี คือค่อยๆ เก็บปันผลไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องเครียดว่าราคาจะขึ้นหรือลง ส่วนใครกลัวชีวิตขาดสีสัน จะแบ่งเงินอีกส่วนไว้เทรดตามเทคนิคที่จารย์ตี่เคยเล่าไว้แล้วในฉบับก่อนๆ ก็ไม่ผิดแต่อย่างใดครับ
สนใจติดตามเรื่องหลักการลงทุนแบบนี้ ติดต่อไปที่ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน 0-2659-8333 แจ้งว่าขอรับบทความ Trading Wizard ซึ่งผมจะส่งทาง E-mail ทุกสัปดาห์ครับ หรือติดตาม update ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของเราได้ที่ www.utrade.co.th และ www.facebook.com/uobkayhian.th
เรื่องโดย : ชาญวุฒิ สิทธิพงศ์พิทยา (จารย์ตี่)
Assistant Vice President, UOB Kay Hian Securities (Thailand) PCL.
chanwut@uobkayhian.co.th
