บลจ.ทาลิสปรับเป้ากองไพรเวตฟันด์ปีนี้แตะ 3 พันล้านบาท หลังผลงาน 4 เดือนเกินคาดทะลุเป้า 2 พันล้านบาทไปแล้ว ลั่นสิ้นปีรุกธุรกิจกองทุนรวมเพิ่ม ตั้งเป้าประเดิมอีก 2 พันล้านบาท พร้อมโชว์ผลตอบแทนกองหุ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมบวกไปแล้ว 17-18% มั่นใจหุ้นไทยโตสิ้นปีแตะ 1,500-1,600 จุด ส่วนปีหน้ามีแววทะลุ 1,800 จุด
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทาลิส จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทเปิดดำเนินงานมาเพียง 4 เดือนปรากฏว่ามีนักลงทุนรายใหญ่ให้ความสนใจลงทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคลของบริษัทเป็นจำนวนมาก ทำให้ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) รวมทั้งสิ้นกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายทั้งปีที่วางไว้ บริษัทฯ จึงปรับเพิ่มเป้าหมาย AUM ในส่วนของ Private Fund สิ้นปี 2559 นี้เป็นมากกว่า 3,000 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้นักลงทุนรายใหญ่ยังสนใจเข้ามาขอรับคำปรึกษาเรื่องการลงทุน และไว้วางใจให้บริษัทฯ บริหารกองทุนส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“แม้ภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนในช่วงครึ่งปีแรกจะมีความผันผวน แต่ในแง่ของผลตอบแทนของ Private Fund ภายใต้การบริหารของทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเป็นมืออาชีพ ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจของลูกค้า เนื่องจากสามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนได้สอดรับกับทิศทางตลาดหุ้น ตลาดเงิน และตลาดตราสารหนี้ที่มีความผันผวน ทำให้มีการบอกกันปากต่อปากเป็นวงกว้าง และทำให้ AUM เติบโตสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ก่อนหน้าในเวลาเพียงไม่นาน” นายฉัตรพีกล่าว
นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่นักลงทุนรายใหญ่เท่านั้นที่ให้ความไว้วางใจให้บริษัทฯ บริหารจัดการเงินลงทุน นักลงทุนรายย่อยเองมีการสอบถามเข้ามาจำนวนมาก ทำให้บริษัทฯ เดินหน้าขยายการดำเนินธุรกิจให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมการขอรับใบอนุญาตจัดตั้งกองทุนรวม จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปีนี้ และจากที่มีการสอบถามจากนักลงทุนรายย่อยเป็นจำนวนมาก ทำให้มั่นใจว่าในปี 2559 นี้ AUM ของ บลจ.ทาลิสจะมีมูลค่ารวมกันมากกว่า 5,000 ล้านบาท
ด้านนายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ทาลิส จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าลูกค้าทั้งรายใหญ่และรายย่อยติดต่อสอบถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยผลการดำเนินงานของกองทุน Private Fund ภายใต้การบริหารของ บลจ.ทาลิส ในช่วงที่ผ่านมา สำหรับกองทุนของลูกค้าที่ลงทุนตั้งแต่เดือนมีนาคม 2559 มีผลการดำเนินงานเฉลี่ยรวมประมาณ 17-18%
ส่วนกองทุนของลูกค้าที่ลงทุนตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 มีผลการดำเนินงานเฉลี่ยโดยรวมประมาณ 14% ขณะที่ SET TRI ในช่วงเวลาเดียวกันอยู่ที่ประมาณ 4%
“Private Fund ที่บริหารอยู่ในปัจจุบันจะโฟกัสเฉพาะตลาดหุ้นไทย โดยเน้นลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าเศรษฐกิจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นบริษัทขนาดกลาง และขนาดเล็ก ในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม”
ทั้งนี้ สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของปี 2559 ประเมินว่าผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนยังมีแนวโน้มเติบโต ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ทั้งอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับนักลงทุนมองหาสินทรัพย์เพื่อลงทุนให้ได้รับผลตอบแทนสูง จึงคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้กระแสเงินทุนยังไหลเข้าตลาดหุ้นและกองทุนรวมประเภทที่ลงทุนในหุ้นมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งจะมีเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ดังนั้นในช่วงครึ่งหลังของปีมีโอกาสเห็นดัชนีหุ้นไทยแตะระดับ 1,500-1,600 จุด และปี 2560 มีโอกาสที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นไปทะลุระดับ 1,700-1,800 จุดได้