xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ ปันผลกอง ABFTH จ่อโยกเทรด SET เพิ่มสภาพคล่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.กสิกรไทยเตรียมโยกกองดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) เข้าเทรด SET หวังเพิ่มสภาพคล่อง และเปิดทางให้นักลงทุนทั่วไป-สถาบันเข้าถึงง่ายขึ้น พร้อมเตรียมปันผลอีก 86 ล้านบาท ในอัตรา 15 บาทต่อหน่วย 14 มิถุนายนนี้

นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า คณะกรรมการที่ปรึกษากองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาให้ย้ายการซื้อขายกองทุน ABFTH จากตลาดตราสารหนี้ (BEX) เข้าไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อเป็นการส่งเสริมให้กองทุนเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น รวมถึงยังเป็นการช่วยเพิ่มขนาดกองทุนและสภาพคล่องให้มีมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปรวมถึงนักลงทุนสถาบันสามารถเข้าลงทุนได้ง่ายขึ้น และคาดว่ากองทุนจะเริ่มจดทะเบียนใน SET ได้ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้

สำหรับกองทุนนี้ปัจจุบันมีขนาดประมาณ 7,000 ล้านบาท และจดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดตราสารหนี้ (BEX) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้ดูแลสภาพคล่องในตลาดรอง

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟ (ABFTH) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2558 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 โดยจ่ายเงินปันผลในอัตรา 15.00 บาทต่อหน่วย มูลค่าการจ่ายเงินปันผลรวม 86.33 ล้านบาท โดยจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียนเวลา 08.00 น. ของวันที่ 31 พฤษภาคม 2559 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 มิถุนายน 2559

ทั้งนี้ กองทุนเปิดดัชนีพันธบัตรไทยเอบีเอฟเป็นกองทุนรวม ETF กองทุนแรกของไทยที่มีการลงทุนโดยอ้างอิงกับดัชนีตราสารหนี้ภาครัฐ (iBoxx ABF Thailand Index) โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลไทย หรือออกโดยภาครัฐที่มีรัฐบาลไทยเป็นผู้ค้ำประกัน หรือได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือไม่ต่ำกว่าระดับ Investment Grade จากสถาบันจัดอันดับที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

“ผลการดำเนินงานของกองทุนที่ผ่านมา ด้วยจุดเด่นของกองทุน ABFTH ที่มุ่งเน้นลงทุนในพันธบัตรที่มีความมั่นคงสูง และมุ่งสร้างผลตอบแทนให้อยู่ในระดับที่ดีใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง ทำให้กองทุนยังรักษาผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และสามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ลงทุนได้อย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2549 โดยกองทุนมีการจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 21 ครั้ง รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 388.36 บาทต่อหน่วย ส่วนในรอบผลการดำเนินงานที่ผ่านมา (1 ธ.ค. 58-31 พ.ค. 59) กองทุนให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.83%” นายชัชชัยกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น