xs
xsm
sm
md
lg

ยุคไฮเทคเพิ่งเริ่มต้น ไทยพาณิชย์ชวนลุยหุ้นดิจิตอล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บลจ.ไทยพาณิชย์เปิดกองลุยหุ้นกลุ่มดิจิตอล เชื่อยุคไฮเทคเพิ่งเริ่มและจะมีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้นในอนาคต กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลดิจิตอลเปิดขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 27 มิถุนายน ระบุภาพรวมเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่วนเศรษฐกิจไทยทรงตัว การลงทุนภาครัฐและอุปสงค์ภายในประเทศช่วยหนุน

นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันหุ้นกลุ่ม Digital Communication ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการลงทุนและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี เนื่องจากมองว่าการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิตอลนั้นปัจจุบันยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ซึ่งต่อไปในอนาคตยังมีศักยภาพที่จะขยายตัวได้อีกมาก โดยดูจากฐานการใช้เทคโนโลยีมีการเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไปข้างหน้า

โดยล่าสุดบริษัทเตรียมที่จะออกกองทุนเพื่อลงทุนในหุ้นกลุ่ม Digital Communication ทั่วโลก คือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลดิจิตอล (SCB Global Digital Fund) มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เสนอขายระหว่างวันที่ 21-27 มิถุนายน 2559 ด้วยมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท นอกจากนี้กองทุนอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามความเหมาะสมสำหรับภาวการณ์ในแต่ละขณะ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน

สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอลดิจิตอล มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ PICTET-Digital Communication (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน (Share Class) I USD สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ซึ่งบริหารโดย PICTET Asset Management จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของประเทศลักเซมเบิร์ก และอยู่ภายใต้ UCITS (มาตรฐานเพื่อการซื้อขายกองทุนข้ามประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป)

ทั้งนี้ กองทุนหลักมีกลยุทธ์ในการเลือกลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีรายได้อย่างน้อย 20% มาจาก Interactive applications อาทิ บริษัทที่ประกอบธุรกิจในด้าน e-commerce ธุรกิจที่สร้างรายได้จากการขายพื้นที่โฆษณาออนไลน์ ธุรกิจที่ให้บริการระบบ IT กับบริษัทที่ทำธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต ธุรกิจซอฟท์แวร์ในรูปแบบ Cloud-Based เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทดังกล่าวมีอัตราการเติบโตที่ดี และสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทที่เลือกลงทุนเป็นหุ้นที่สามารถสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง มีงบดุลที่แข็งแรง และมีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโตในอนาคต โดยหุ้น 10 อันดับแรกที่ลงทุน ได้แก่ AT&T, Alphabet, Comcast, Facebook, Verizon, Tencent, Amazon, Intuit, Salesforce และ Yahoo (ข้อมูล ณ 31 มีนาคม 2559)

ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนดังกล่าวในช่วง 5 ปี สามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 56.07% 3 ปีอยู่ที่ 48.56% และ 1 ปีอยู่ที่ 2.69% สูงกว่าเมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน MSCI World Index ในทุกช่วงเวลาเดียวกัน โดย 5 ปีให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 35.77% 3 ปีอยู่ที่ 21.86% ขณะที่ 1 ปีติดลบ 3.77% (ข้อมูล ณ วันที่ 1 เมษายน 2559)

นายสมิทธ์กล่าวอีกว่า ภาพรวมการลงทุนในขณะนี้เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป นำโดยกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ส่วนเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มทรงตัว โดยมีอุปสงค์ภายในประเทศเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนภายในประเทศทั้งจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่มีการตั้งงบประมาณลงทุนเพิ่มสูงขึ้น 20% จากในปี 2558 และการลงทุนของภาคเอกชนที่คาดว่าจะกลับมาขยายตัวอีกครั้ง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล


กำลังโหลดความคิดเห็น