บลจ.กรุงไทยแนะนำ 2 กองทุนเด่นรับจังหวะลงทุนผันผวน ชูกองตราสารหนี้พลัสลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ส่วนกองหุ้นแนะซื้อกองปันผล เน้นลงทุนหุ้นแกร่งประวัติปันผลสม่ำเสมอ มั่นใจเศรษฐกิจโลกฟื้น สภาพคล่องล้น และการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยหนุน
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนนี้บริษัทอยากแนะนำกองทุนที่เหมาะกับแนวโน้มการลงทุนทั้งในส่วนของตราสารหนี้และตราสารทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าในระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน โดยกองทุนแรกคือ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้พลัส (KTFIXPLUS) เป็นกองทุนที่น่าสนใจในช่วงที่ภาวะการลงทุนมีความผันผวน มีการบริหารกองทุนในเชิงรุก เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการเงิน รวมทั้งลงทุนในเงินฝาก
ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนในต่างประเทศใม่เกิน 50% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน มีการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน กองทุนจะลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพ อันดับเครดิตเฉลี่ยอยู่ที่ A กองทุนนี้มุ่งสร้างผลตอบแทนรวมจากการลงทุนในตราสารหนี้ในช่วงอายุคงเหลือระหว่าง 1-5 ปี ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ในระยะเวลาลงทุน 6 เดือนขึ้นไป
โดยผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนของกองทุน ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2559 อยู่ที่ 2.61% ย้อนหลัง 9 เดือน อยู่ที่ 2.36% และ 1 ปี อยู่ที่ 2.17% ส่วนเกณฑ์มาตรฐาน AIMC ย้อนหลัง 6 เดือน อยู่ที่ 7.09% 9 เดือน อยู่ที่ 5.77% และ 1 ปี อยู่ที่ 4.91% ซึ่งเกณฑ์มาตรฐาน AIMC จะคำนวณจากร้อยละ 50 ของอัตราผลตอบแทนจาก TBMA Government Bond Index (Tatal Retuen Index) และร้อยละ 50 ของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประเภทบุคคลธรรมดา วงเงิน 1 ล้านบาท ระยะเวลา 1 ปี ของธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง ได้แก่ BBL KBANK และ SCB
“สาเหตุที่กองทุนดังกล่าวน่าสนใจ เนื่องจากดอกเบี้ยทรงตัวในระดับต่ำ และสภาพคล่องในระบบยังมีอยู่ในระดับสูง เอื้อต่อการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศยังฟื้นตัวช้า และเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะชะลอตัว จึงคาดว่ากองทุนมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอื่นในภาวะที่ตลาดผันผวน” นางชวินดากล่าว
นางชวินดากล่าวอีกว่า ในส่วนของกองตราสารทุน บริษัทอยากแนะนำกองทุนเปิดกรุงไทย หุ้น ไฮดิวิเดนด์ (KT-Hidiv) ที่จะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มีประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ และมีการคาดการณ์ว่าจะจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดโดยรวม
ทั้งนี้ กองทุนจะเลือกลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐ เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น กลุ่มขนส่ง กลุ่มโรงแรม หุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มพลังงาน ที่มีการปรับตัวลดลงมามาก จนต่ำกว่ามูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน
สำหรับผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนของกองทุนนี้ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2559 อยู่ที่ 5.76% 9 เดือนอยู่ที่ 5.81% และ 1 ปีอยู่ที่ 3.08% ส่วนเกณฑ์มาตรฐาน AIMC ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 8.39% 9 เดือนอยู่ที่ 4.44% และ 1 ปีอยู่ที่ -8.92% โดยเกณฑ์มาตรฐานคำนวณจากดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index
“ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้กองทุน KT-Hidiv น่าสนใจเนื่องจากสภาพคล่องในตลาดการเงินสูง อัตราดอกเบี้ยทรงตัวระดับต่ำ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะมีอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐที่ทยอยประกาศออกมา เศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ช่วงของการฟื้นตัว และมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจของจีน ญี่ปุ่น และ EU” นางชวินดากล่าว