บลจ.ไทยพาณิชย์เปิดขายกองทุนใหม่ ลุยตลาดหุ้นสหรัฐฯ-ยุโรป ถึงวันที่ 30 พ.ค.นี้ ระบุหุ้นขนาดเล็กทั้ง 2 ตลาดมีแนวโน้มดีรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการกระตุ้นของภาครัฐ แถมราคาถูกกว่า พร้อมคาดกำไรต่อหุ้นอาจโตได้ถึง 56% เมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ที่โตแค่ 14% เท่านั้น
นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมที่จะออกกองทุนเพื่อลงทุนในหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯ และยุโรป โดยเสนอขายระหว่างวันที่ 24-30 พฤษภาคม 2559 ด้วยมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท พร้อมกัน 2 กองทุน คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ยูเอสสมอลแคป (SCB US Small Cap Equity Fund) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยุโรปสมอลแคป (SCB European Small Cap Equity Fund) มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท
โดยทั้ง 2 กองทุนอาจเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามความเหมาะสมสำหรับภาวการณ์ในแต่ละขณะ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน
ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ใน 2-3 ปีที่ผ่านมาเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง จากอัตราการจ้างงานที่กลับเข้าสู่ระดับปกติและการบริโภคซึ่งจะผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับเข้าสู่วัฏจักรการเติบโตรอบใหม่ โดยราคาหุ้นขนาดเล็กเริ่มปรับฐานมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2015 จนถึงปัจจุบัน และยังมีระดับราคาที่น่าสนใจกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ต่างชาติยังคาดการณ์การเติบโตของผลกําไรต่อหุ้น (EPS) ของหุ้นขนาดเล็กนั้นจะสามารถเติบโตได้ร้อยละ 56.27 สูงกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเติบโตร้อยละ 14.95 (ที่มา Bloomberg ณ วันที่ 23/05/2559)
ขณะที่ในส่วนของยุโรปนั้น ธนาคารกลางยุโรปยังคงกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใช้นโยบายการเงินทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ติดลบและการซื้อสินทรัพย์ (QE) นั้นทำให้ผลตอบแทนจากการถือพันธบัตรยังคงอยู่ในระดับต่ำจนถึงติดลบต่อไป และอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะเติบโตในปีต่อๆ ไป ซึ่งทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในหุ้นมากขึ้น โดยมองว่าเศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มจะพื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และประกอบกับนโยบายการสนับสนุนการเร่งปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มธุรกิจขนาดเล็กจะช่วยให้ธุรกิจดังกล่าวสามารถเข้าถึงสภาพคล่องและเม็ดเงินลงทุนได้มากขึ้น และมีต้นทุนทางการเงินที่ถูกลงมาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของหุ้นขนาดเล็ก (EPS) ที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตได้มากถึงร้อยละ 201.59 ต่อปี และคาดว่าจะเติบโตมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ซึ่งจะเติบโตได้เพียงร้อยละ 86.35 ต่อปี (ที่มา Bloomberg ณ วันที่ 23/05/2559)
สำหรับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ยูเอสสมอลแคป เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ U.S. Small Companies Fund (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน (share class) Accumulation และลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
ส่วนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยุโรปสมอลแคป เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองเดียว ได้แก่ European Smaller Companies Fund (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน (share class) D accumulating สกุลเงินยูโร โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน