บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพิ่มทุนกอง “LHPROP-I” อีก 1,000 ล้านบาท รับดีมานด์ลงทุน หลังสร้างผลตอบแทนเด่น แนะลงทุนกองอสังหาฯ ในภาวะตลาดผันผวน
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LH Fund เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดหุ้นของไทยที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากเงินทุนจากต่างประเทศเริ่มไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นฝั่งเอเชียรวมถึงประเทศไทย เนื่องจากปัจจัยการคาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบผ่านจุดต่ำสุดและเริ่มปรับตัวดีขึ้น การคลายความกังวลกรณีธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายรอบใหม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนทั่วโลก ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 0.05% เหลือ 0% ทำให้เกิดความผันผวนของตลาดทุนทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ภาคการส่งออกของไทยที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่องยังคงเป็นปัจจัยฉุดรั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนไทยและมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นในปีนี้ ดังนั้น LH Fund มองว่าภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน การลงทุนผ่านกองทุนรวมโดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน นับเป็นทางเลือกที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนและมีความผันผวนต่ำกว่าการลงทุนในหุ้น
ทั้งนี้ กองทุนเปิด แอล เอช พร็อพเพอร์ตี้ พลัส I (LHPROP-I) ของ LH Fund ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในด้านการสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุน โดยนับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมาจนถึง 26 กุมภาพันธ์ 2559 สามารถสร้างอัตราผลตอบแทน 35.04% ต่อปี สูงกว่าเกือบเท่าตัวจากค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมซึ่งผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 19.58% ต่อปี
ดังนั้น จากความต้องการซึ่งมีอยู่อย่างต่อเนื่อง LH Fund จึงขออนุมัติต่อ ก.ล.ต. เพื่อขยายทุนจดทะเบียนกองทุน LHPROP-I จากเดิม 2,000 ล้านบาท เป็น 3,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการขอขยายทุนจดทะเบียนกองทุนเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเพียง 3-4 เดือน และหากได้รับผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุนภายหลังขยายทุนจดทะเบียนในครั้งนี้ ในอนาคต LH Fund อาจพิจารณาการลงทุนที่เหมาะสม สำหรับผู้ที่มีความต้องการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้นเพิ่มเติมจากที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
นายมนรัฐ กล่าวว่า เรามีความเชี่ยวชาญการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยปัจจุบันมีกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนที่ลงทุนในหน่วยลงทุนอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการรวมทั้งสิ้น ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 ประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 26,700 ล้านบาท และกองทุนที่ลงทุนในหน่วยลงทุนอสังหาริมทรัพย์อีกประมาณ 3,300 ล้านบาท
“จากความเชี่ยวชาญการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้น เห็นได้จากการสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม โดยนอกจากการขอขยายทุนจดทะเบียนกองทุน LHPROP-I ในรอบกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา เราได้ขยายทุนจดทะเบียนกองทุนเปิด แอล เอช ไทย พร็อพเพอร์ตี้ (LHTPROP) แล้ว 2 ครั้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ไว้วางใจให้เราเป็นผู้ดูแลบริหารกองทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี”
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ LH Fund เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดหุ้นของไทยที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากเงินทุนจากต่างประเทศเริ่มไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นฝั่งเอเชียรวมถึงประเทศไทย เนื่องจากปัจจัยการคาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันดิบผ่านจุดต่ำสุดและเริ่มปรับตัวดีขึ้น การคลายความกังวลกรณีธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายรอบใหม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนทั่วโลก ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 0.05% เหลือ 0% ทำให้เกิดความผันผวนของตลาดทุนทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ภาคการส่งออกของไทยที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่องยังคงเป็นปัจจัยฉุดรั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนไทยและมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นในปีนี้ ดังนั้น LH Fund มองว่าภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน การลงทุนผ่านกองทุนรวมโดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน นับเป็นทางเลือกที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนและมีความผันผวนต่ำกว่าการลงทุนในหุ้น
ทั้งนี้ กองทุนเปิด แอล เอช พร็อพเพอร์ตี้ พลัส I (LHPROP-I) ของ LH Fund ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในด้านการสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุน โดยนับจากจัดตั้งกองทุนเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมาจนถึง 26 กุมภาพันธ์ 2559 สามารถสร้างอัตราผลตอบแทน 35.04% ต่อปี สูงกว่าเกือบเท่าตัวจากค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมซึ่งผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 19.58% ต่อปี
ดังนั้น จากความต้องการซึ่งมีอยู่อย่างต่อเนื่อง LH Fund จึงขออนุมัติต่อ ก.ล.ต. เพื่อขยายทุนจดทะเบียนกองทุน LHPROP-I จากเดิม 2,000 ล้านบาท เป็น 3,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการขอขยายทุนจดทะเบียนกองทุนเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเพียง 3-4 เดือน และหากได้รับผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุนภายหลังขยายทุนจดทะเบียนในครั้งนี้ ในอนาคต LH Fund อาจพิจารณาการลงทุนที่เหมาะสม สำหรับผู้ที่มีความต้องการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้นเพิ่มเติมจากที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
นายมนรัฐ กล่าวว่า เรามีความเชี่ยวชาญการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยปัจจุบันมีกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และกองทุนที่ลงทุนในหน่วยลงทุนอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการรวมทั้งสิ้น ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 ประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 26,700 ล้านบาท และกองทุนที่ลงทุนในหน่วยลงทุนอสังหาริมทรัพย์อีกประมาณ 3,300 ล้านบาท
“จากความเชี่ยวชาญการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้น เห็นได้จากการสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม โดยนอกจากการขอขยายทุนจดทะเบียนกองทุน LHPROP-I ในรอบกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา เราได้ขยายทุนจดทะเบียนกองทุนเปิด แอล เอช ไทย พร็อพเพอร์ตี้ (LHTPROP) แล้ว 2 ครั้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ไว้วางใจให้เราเป็นผู้ดูแลบริหารกองทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี”