บลจ.ไทยพาณิชย์ชูความพร้อมบริหาร “กองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์” มั่นใจประสบการณ์ มองหุ้นไทยมีเงินไหลในช่วงสั้น แต่ยังมีแนวโน้มที่ดี ออกกองทุนผสม “SCBPLUS” กระจายลงทุนให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ
นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBAM เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสนใจในการเข้าบริหารกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์มูลค่า 100,000 ล้านบาท ที่ทางรัฐบาลจัดตั้งขึ้นหากมีโอกาส เนื่องจากบริษัทเชื่อมั่นในความสามารถในการบริหารกองทุนขนาดใหญ่อย่างกองทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ
ทั้งนี้ จะเห็นได้จากกองทุนอินฟราฯ ที่ทางบริษัทได้เสนอขายให้แก่นักลงทุนที่ผ่านมาที่ประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก อย่างกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิตอล (DIF) ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่มีสัดส่วนการเข้าลงทุนในสัดส่วนที่น้อย ปัจจุบันมีมากถึง 1 ใน 3 ของนักลงทุนรายใหญ่ ที่สำคัญมูลค่ากองทุน DIF ปัจจุบันมีการขยายตัวใกล้ 100,000 ล้านบาทแล้ว จากที่กองทุนฯ เสนอขายในช่วงแรกมูลค่ากองทุนอยู่ที่ระดับ 58,000 ล้านบาท ขณะที่การจ่ายเงินปันผลของกองทุน DIF มีความสามารถจ่ายเงินปันผลเกินเป้าหมายที่วางไว้ได้ทุกปีที่ 8.8% เพราะกองทุน DIF สามารถจ่ายปันผลได้จริงถึง 9.3% เชื่อว่า ความสามารถในการจ่ายปันผลของกองทุนดังกล่าวยังอยู่ในระดับสูง
ส่วนราคาหน่วยกองทุน DIF จากราคาเสนอขายครั้งแรก (IPO) ที่ 10 บาท ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 13-13.50 บาทต่อหน่วย โดยปัจจุบัน DIF ขนาดกองทุน โดย ณ วันที่ 29 ก.พ. 59 กองทุน DIF มีขนาดสินทรัพย์อยู่ที่ 71,938,707,473.49 ล้านบาท และตั้งแต่จัดตั้งกองทุน DIF เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2556 จนถึงปัจจุบัน (31 ธันวาคม 2558) ได้มีการจ่ายเงินปันผลไปแล้วรวมทั้งสิ้น 1.8844 บาทต่อหน่วย
“จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการกองทุนขนาดใหญ่ต่างๆ เชื่อว่าการบริหารจัดการกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ บลจ.ไทยพาณิชย์สามารถบริหารจัดการได้ดี”
ส่วนภาพตลาดหุ้นไทยปัจจุบัน มองว่าเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาระยะสั้นเท่านั้น และหุ้นขนาดใหญ่อย่างหุ้นกลุ่มธนาคาร พลังงาน และสื่อสาร ยังได้รับอานิสงค์ แต่การไหลเข้ามาของเม็ดเงินลงทุนดังกล่าวจะเป็นในระยะสั้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มหุ้นไทยปีนี้มีแนวโน้นที่ดีขึ้น ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาปรับกรอบลงทุนใหม่จากเดิมที่วางเป้าหมายดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,400 จุด
นายสมิทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุดบริษัทเตรียมออกกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ อินคัมพลัส (SCBPLUS) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เสนอขายระหว่างวันที่ 15-21 มี.ค. 59 กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนประเภท Multi-Asset Income ที่เน้นบริหารเพื่อสร้างรายได้ระหว่างทาง และมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ลงทุนอย่างสม่ำเสมอไม่เกินปีละ 4 ครั้ง โดยมีนโยบายการลงทุนเปิดกว้าง สามารถกระจายการลงทุนได้ทั้งในหุ้น ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน เงินฝาก หน่วยลงทุนของกองทุน
โดยผู้จัดการกองทุนสามารถพิจารณาปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตั้งแต่ 0% ถึง 100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในขณะนั้น และยังเปิดให้สามารถลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน