กองทุนเปิดบัวหลวงสิริผลบรรษัทภิบาล (BSIRICG) กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 12 ก.พ. หน่วยลงทุนละ 0.08 บาท ย้ำแนวคิดลงทุนในธุรกิจที่มีบรรษัทภิบาล และมีความสม่ำเสมอในการจ่ายปันผล จะให้ผลตอบแทนได้ในระยะยาว
นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา Managing Director และ Chief Investment Officer บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวงจำกัด (กองทุนบัวหลวง) กล่าวว่า สำหรับในปีนี้จะยังเป็นปีที่ท้าทายสำหรับการลงทุนจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ การแกว่งตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หรือปัญหาความขัดแย้งตามภูมิภาคต่างๆ ที่รุนแรงขึ้น ซึ่งทีมจัดการกองทุนมองว่าได้สะท้อนปัจจัยลบเหล่านั้นไปแล้วพอสมควร ถ้านักลงทุนมองข้ามไปข้างหน้า ทั้งเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และการเติบโตของภูมิภาคอาเซียน จะช่วยหนุนให้เกิดโอกาสการค้าการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น โดยปีลิงในปีนี้จะเป็นลิงที่ไม่ย่อท้อต่อความท้าทายของเศรษฐกิจโลก
“เรามุ่งมั่นบริหารกองทุนด้วยความซื่อตรง ด้วยความสามารถ และมีความพิถีพิถันในการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อให้ท่านได้รับผลตอบแทนที่มั่นคง ยั่งยืนในระยะยาว ให้สมกับความไว้วางใจที่ท่านมอบให้เราตลอดมา”
ล่าสุดบริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน กองทุนเปิดบัวหลวงสิริผลบรรษัทภิบาล (BSIRICG) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2559 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.08 บาท โดยปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้
สำหรับกองทุน BSIRICG มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยมุ่งเน้นหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง ทำให้กองทุนได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลเป็นที่น่าพอใจ แม้ในปีที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ บ้านเราไม่ค่อยสดใสก็ตาม โดยในบางครั้งกระทบต่อมูลค่าหลักทรัพย์ที่กองทุนถือครอง ส่งผลต่อการจ่ายเงินปันผลไปบ้าง แต่เงินปันผลที่กองทุนได้รับจากบริษัทที่เราลงทุนยังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกองทุนได้เก็บหอมรอมริบเพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหน่วยในโอกาสอันสมควร
“การจ่ายปันผลครั้งนี้เป็นครั้งที่ 11 แล้ว สะท้อนให้เห็นว่ากิจการที่เราลงทุนนั้นช่วยย้ำแนวคิดการลงทุนของเราที่เชื่อมั่นในธุรกิจที่มีบรรษัทภิบาล และมีความสม่ำเสมอในการจ่ายปันผล จะให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนได้ในระยะยาว”
นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา Managing Director และ Chief Investment Officer บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวงจำกัด (กองทุนบัวหลวง) กล่าวว่า สำหรับในปีนี้จะยังเป็นปีที่ท้าทายสำหรับการลงทุนจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ การแกว่งตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หรือปัญหาความขัดแย้งตามภูมิภาคต่างๆ ที่รุนแรงขึ้น ซึ่งทีมจัดการกองทุนมองว่าได้สะท้อนปัจจัยลบเหล่านั้นไปแล้วพอสมควร ถ้านักลงทุนมองข้ามไปข้างหน้า ทั้งเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และการเติบโตของภูมิภาคอาเซียน จะช่วยหนุนให้เกิดโอกาสการค้าการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้น โดยปีลิงในปีนี้จะเป็นลิงที่ไม่ย่อท้อต่อความท้าทายของเศรษฐกิจโลก
“เรามุ่งมั่นบริหารกองทุนด้วยความซื่อตรง ด้วยความสามารถ และมีความพิถีพิถันในการคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อให้ท่านได้รับผลตอบแทนที่มั่นคง ยั่งยืนในระยะยาว ให้สมกับความไว้วางใจที่ท่านมอบให้เราตลอดมา”
ล่าสุดบริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน กองทุนเปิดบัวหลวงสิริผลบรรษัทภิบาล (BSIRICG) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2559 ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.08 บาท โดยปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้
สำหรับกองทุน BSIRICG มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยมุ่งเน้นหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและต่อเนื่อง ทำให้กองทุนได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลเป็นที่น่าพอใจ แม้ในปีที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ บ้านเราไม่ค่อยสดใสก็ตาม โดยในบางครั้งกระทบต่อมูลค่าหลักทรัพย์ที่กองทุนถือครอง ส่งผลต่อการจ่ายเงินปันผลไปบ้าง แต่เงินปันผลที่กองทุนได้รับจากบริษัทที่เราลงทุนยังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกองทุนได้เก็บหอมรอมริบเพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหน่วยในโอกาสอันสมควร
“การจ่ายปันผลครั้งนี้เป็นครั้งที่ 11 แล้ว สะท้อนให้เห็นว่ากิจการที่เราลงทุนนั้นช่วยย้ำแนวคิดการลงทุนของเราที่เชื่อมั่นในธุรกิจที่มีบรรษัทภิบาล และมีความสม่ำเสมอในการจ่ายปันผล จะให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนได้ในระยะยาว”