xs
xsm
sm
md
lg

ใครว่า “เศรษฐกิจไทยตกต่ำ เพราะผู้มีอำนาจไม่ได้สนใจ?”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตั้งแต่ต้นปี หลายคนมีความพยายามทำให้คนไทย “กลัวเกินเหตุ”

... บอกว่า “ปีที่แล้วเผาหลอก ปีนี้เผาจริงบ้าง”

... ส่งออกไทยตกต่ำอย่างต่อเนื่องบ้าง

ล่าสุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีผู้กล่าวว่า “ตอนนี้เศรษฐกิจน่าเป็นห่วง ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยเราเสียหายมาก... วันนี้ไม่มีใครคิดถึงอนาคตประเทศ คิดถึงแต่อดีต นำประเทศกลับไปสู่อดีต ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำเป็นเพราะผู้มีอำนาจไม่ได้สนใจ”

ผมว่า เศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี ตกต่ำย่ำแย่ หรือไม่? รัฐบาลเอาใจใส่ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจหรือไม่? ควรจะดูกันที่ข้อมูลตามความเป็นจริง ด้วยความเป็นธรรม จะพบความจริง ดังนี้

1. การส่งออกของไทยตกต่ำ ก็ตกต่ำในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ผมเคยดูข้อมูลช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งพูดกันมากเรื่องส่งออกตกต่ำ ไทยตกต่ำกว่าเดือนที่ดีที่สุดย้อนหลัง 6 เดือนประมาณ 15% แต่ของเกาหลีใต้ตก 20% สิงคโปร์ตก 23% และจีนตกถึง 26%!

2. ไทยส่งออกตกลงหนัก นำเข้าก็ตกลงยิ่งหนักมาก คล้ายๆ กับในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ผมได้ขอข้อมูลให้ฝ่ายวิจัยผมช่วยหาข้อมูลให้ ได้ข้อมูล ณ สิ้นเดือนเมษายน โดยเทียบการส่งออกและการนำเข้าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนปีที่แล้ว ดังนี้

สหรัฐอเมริกา ส่งออกลด 6% นำเข้าลด 6%

ยุโรป ส่งออกลด 16% นำเข้าลด 19%

ญี่ปุน ส่งออกลด 5% นำเข้าลด 18%

จีน ส่งออกลด 1% นำเข้าลด 19%

เกาหลีใต้ ส่งออก “เพิ่ม” 4% นำเข้าลด 18%

สิงคโปร์ ส่งออกลด 2% นำเข้าลด 20%

มาเลเซีย ส่งออกลด 10% นำเข้าลด 17%

อินโดนีเซีย ส่งออกลด 11% นำเข้าลด 22%

ฟิลิปปินส์ ส่งออก “เพิ่ม” 2% นำเข้าลด 12%

ประเทศไทย ส่งออกลด 2% นำเข้าลด 6%

ก็ต้องยอมรับว่ามีเกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ ที่ยังส่งออกได้มากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และจีนส่งออกลดลงเพียง 1% ที่ถือว่าลดน้อยกว่าเรา เรากับสิงคโปร์ส่งออกลดลง 2% เท่าๆ กัน แต่ที่เหลือจะส่งออกลด “หนักกว่าเรา” มาก และข้อสังเกตคือ กลุ่มเศรษฐกิจใหญ่ๆ เขา “นำเข้า” ลดลงกันมหาศาล ย่อมทำให้การส่งออกของประเทศต่างๆ ลดลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะการส่งออกของแต่ละประเทศคือการนำเข้าของประเทศคู่ค้านั่นเอง

3. รัฐบาลได้ใส่ใจแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ หรือไม่? ผมก็ได้สังเกตว่า รัฐบาลก็ได้มีการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นระยะๆ

... แม้ประชาชนมีหนี้ครัวเรือนสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 80% ของจีดีพี ก็เป็นแรงหน่วงในการจับจ่ายของประชาชน ตั้งแต่เริ่มต้นของรัฐบาลปัจจุบัน

... แม้ชาวนาจะมีความลำบากในการผลิตข้าว และต้องขายแข่งกับข้าวที่รัฐรับจำนำไว้ ต้องระบายข้าวในราคาถูกตามสภาพที่เสื่อม

... แม้น้ำในเขื่อนจะมีจำกัด เพราะระบายออกไปมากๆ หลังน้ำท่วมใหญ่ และประสบความแห้งแล้ง น้ำเข้าเขื่อนไม่ได้ตามเป้าหมายมากว่า 3 ปี

แต่รัฐบาลก็พอจะสามารถประคองสถานการณ์ไปได้ ถือว่าดีพอสมควร หากเทียบกับสถานการณ์ทั่วโลก เมื่อมีปัญหาภัยแล้ง ก็ได้มีการลงมือโครงการ “ฝนเทียม” ตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล่าสุด ก็จะมีโครงการกองทุนหมู่บ้าน และ โครงการลงทุนเล็กๆ ในแต่ละตำบลเพื่อหนุนให้มีเงินลงทุนสะพัดทั่วแผ่นดินในไม่ช้า

ที่ผ่านมา หลายคนพูดให้คนไทยกลัว ... มีคนบอกว่า ไทยอาจต้องประสบวิกฤตการเงินอีกครั้ง โดยเฉพาะตอนที่กรีซมีปัญหาต้องเข้า IMF หลายคนก็ถามว่า “แล้วไทยล่ะ” ด้วยความวิตกกังวล แต่สถานะต่างกันมากครับ

กรีซมีหนี้รัฐประมาณ 158% ของไทย 44.5%

กรีซมีอัตราคนว่างงาน 25% ของไทย 0.9%

กรีซมีทุนสำรองระหว่างประเทศ 5.7 พันล้านเหรียญ อันดับที่ 86 ของโลก ไทยมี 160 พันล้านเหรียญ อันดับ 13 ของโลก! มากกว่ากรีซ 28 เท่า ทั้งๆ ที่กรีซมีจีดีพี 2.4 แสนเหรียญ สรอ. ของไทย 3.7 แสนล้านเหรียญ สรอ. (ประมาณ 13.5 ล้านล้านบาท) มากกว่ากรีซ 1.5 เท่าเท่านั้น

อย่าลืมว่า ในด้านเศรษฐกิจนั้น สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ “ความกลัว” นั่นเอง คนไทยเราได้รับฟังมากมายว่า สถานการณ์เลวร้าย แต่หากมองจริงอย่างมีกำลังใจ แม้อาจจะไม่ได้ดีอย่างใจ แต่ก็ยังไม่เลวร้ายเกินไป และเมื่อเราร่วมแรงร่วมใจ ระลึกถึงบทเรียนพ่อหลวงเรื่อง “บทเรียนเศรษฐกิจพอเพียง” ใช้จ่ายพอตัว ไม่เสี่ยงเกินไป ควบคู่กับ “บทเรียนพระมหาชนก” ความเข้มแข็ง มุมานะ กล้าหาญ มุ่งมั่น สร้างสรรค์ สังคมไทยก็จะมั่นคงยั่งยืนครับ

มนตรี ศรไพศาล (montree4life@yahoo.com; www.oknation.net/blog/richwithlove; @montrees)


กำลังโหลดความคิดเห็น