xs
xsm
sm
md
lg

ทำงานประจำก็รวยได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คอลัมน์Money Maker
โดย พีรภัทร ฝอยทอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
บริษัท แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)
peerapat.f@alife.co.th โทร. 02-648-3333

ลาออกซะ ถ้าอยากรวย...!! เป็นลูกจ้างเขา แล้วเมื่อไหร่จะรวย...!!!

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งกับผมพีท พีรภัทร และ Money Maker คอลัมน์ที่จะมาแนะนำสาระความรู้เกี่ยวกับเงิน ๆ ทอง ๆ ให้กับท่านผู้อ่านเป็นประจำทางหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการรายวันครับ

เดี๋ยวนี้เวลาผมไปร้านหนังสือ ก็มักจะเจอหนังสือเกี่ยวกับการสร้างแรงบันดาลใจให้มนุษย์เงินเดือนกล้าที่จะลาออกจากงานประจำ กล้าที่จะประกอบธุรกิจส่วนตัว โดยยกตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จมากมายที่ทำแบบนั้น

ซึ่งผมว่าหนังสือแนวนี้ค่อนข้างตรงกับจริตกับคนทำงานในยุคนี้ เนื่องจากปัจจุบันคนทำงานต้องการความเป็นอิสระสูง ไม่ชอบการทำงานแบบซ้ำซาก ๆ แบบเดิม ๆ จึงทำให้คนส่วนใหญ่คิดหาทางที่จะประกอบธุรกิจส่วนตัวมากกว่าการที่จะหางานประจำที่มั่นคงทำเสียอีก

แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะประสบความสำเร็จจากการประกอบธุรกิจส่วนตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่จบใหม่ ที่ไม่ทันมีประสบการณ์ในการทำงาน เรียนจบแล้วก็มุ่งหวังเรื่องการทำธุรกิจส่วนตัวทันที ซึ่งในอดีตคนที่ประสบความสำเร็จจากการประกอบธุรกิจส่วนตัวส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มจากการทำงานก่อนสักระยะ จนมีประสบการณ์หรือความชำนาญในระดับหนึ่ง แล้วจึงค่อยหาหนทางขยับขยายออกมาทำธุรกิจของตัวเอง

ไม่เช่นนั้นก็เป็นประเภทที่ลองผิดลองถูกในการทำธุรกิจส่วนตัวที่เจ๊งแล้วเจ๊งอีก แต่ก็สู้ดิ้นรนไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเจอธุรกิจที่ใช่ และสามารถทำจนประสบความสำเร็จได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใดที่แต่ละคนจะมีฝัน และกล้าที่จะทำตามความฝันของตัวเอง เพียงแต่ความฝันนั้นถ้าไม่ผ่านการคิดไตร่ตรองให้ดีแล้วมันก็ยากที่จะกลายมาเป็นความจริงได้

ดังนั้น ในวันนี้ผมก็อยากจะมาแบ่งปันมุมมองอีกด้านหนึ่งของคนที่รวย แต่ก็ไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานประจำ ซึ่งหลายท่านอาจจะสงสัยว่ามันสามารถทำได้จริงหรือไม่ หรือท้ายที่สุดแล้ว เราต้องลาออกจากงานประจำ ถึงจะทำให้รวยได้เท่านั้น เอาเป็นว่าผมขอสรุปแง่คิดจากประสบการณ์ที่ผมได้เคยพบเจอ หรือพูดคุยกับเหล่าคนที่ประสบความสำเร็จจากการทำงานเป็นลูกจ้างมืออาชีพ ว่าเขาทำกันอย่างไรครับ

ประการแรก คนที่ทำงานประจำส่วนใหญ่แล้วไม่รวยนั้น ร้อยละ 90% ชอบคิดว่าตัวเองทำงานในฐานะลูกจ้าง แต่ในขณะเดียวกันคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ประสบความสำเร็จจากการทำงานประจำนั้น มักจะคิดว่างานที่ทำอยู่นั้นทำในฐานะของผู้ประกอบการ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ความรู้สึกมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของ (Entrepreneurship) ของบริษัทที่ทำอยู่ ซึ่งทำให้คนเหล่านี้ได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้า หรือผู้บังคับบัญชาให้ทำงานที่ใหญ่ขึ้น ยากขึ้น และท้ายที่สุดก็จะทำให้เขาเหล่านั้นเติบโตในหน้าที่การงานอย่างรวดเร็ว และได้รับผลตอบแทนหรือรายได้ที่ดีขึ้นตามไปด้วย

ประการถัดมา คนที่ประสบความสำเร็จจากงานประจำนั้น ล้วนแต่มีเป้าหมายในการทำงานที่ใหญ่และชัดเจน ซึ่งไม่ต่างจากคนที่มีความฝันในการออกมาทำธุรกิจส่วนตัว เพราะเมื่อเรามีเป้าหมายที่ใหญ่ ก็จะทำให้เรามีความท้าทายในการทำงานมากขึ้น และเมื่อเป้าหมายเหล่านั้นเราได้กำหนดลงไปอย่างชัดเจนแล้ว ก็จะทำให้เราสามารถตรวจสอบตัวเองได้เสมอว่าตอนนี้เรายังอยู่อีกไกลจากเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ ตัวอย่างของการตั้งเป้าหมาย เช่น อีก 5 ปี ผมจะเป็นผู้จัดการแผนกให้ได้ หรือ อีก 8 ปี ผมจะเป็นผู้อำนวยการฝ่ายให้ได้ เป็นต้น

ประการสุดท้าย ถึงแม้ว่าเราจะประสบความสำเร็จในการทำงานจาก 2 ข้อแรกแล้วได้เงินเดือนต่อเดือนเป็นแสน ๆ แล้ว แต่ถ้าเรายังมีพฤติกรรมการใช้เงินแบบคนทั่วไปที่ใช้ก่อน เหลือเท่าไหร่ค่อยออม แบบนี้เชื่อผมเถอะครับ โอกาสที่จะรวยได้นั้นยากมาก แต่ถ้าเราลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากเดิมมาเป็น ออมก่อน เหลือเท่าไหร่ค่อยเอาไปใช้ แบบนี้รับรองว่ารวยแน่นอนครับ ซึ่งโดยปกติแล้วเราควรจะออมให้ได้ 10 - 25% ของเงินในแต่ละเดือน

ท่านผู้อ่านลองนำข้อคิดทั้ง 3 ประการที่ผมนำมาเล่าให้ฟังในวันนี้ไปลองปรับใช้กับการทำงานของตัวเองดูนะครับ ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในฐานะลูกจ้าง แต่ผมเชื่อว่าเราก็จะสามารถประสบความสำเร็จและรวยได้อย่างแน่นอนครับ แต่ถ้าใครยังมีความฝันว่าอยากจะเป็นเจ้าของกิจการ ก็รวบรวมความกล้า คิดไตร่ตรองให้ดี แล้วก็ลองออกไปลุยมันดูสักตั้งนะครับ เพราะความสำเร็จมันไม่ได้มีสูตรตายตัวอยู่แล้ว

นอกจากจะประสบความสำเร็จแล้ว แต่ถ้าอยากรวยด้วย ท่านผู้อ่านก็อย่าลืมวางแผนการเงินควบคู่กันไปด้วยนะครับ เพราะนอกจากตัวเราจะทำงานแล้ว เงินของเราก็ควรจะช่วยทำงานด้วย เพื่อที่จะทำให้เราไปสู่เป้าหมายได้เร็วขึ้น

และหากท่านผู้อ่านท่านใดต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก็สามารถส่งอีเมล์มาสอบถามกับผมโดยตรงได้ที่ peerapat.f@alife.co.th หรือหากต้องการผู้ช่วยในการวางแผนการเงิน และวางแผนเกษียณ ก็สามารถโทรเข้ามาปรึกษาทีมที่ปรึกษาทางการเงินของเอไลฟ์ได้ที่เบอร์ 0-2648-3333 ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายครับ แล้วกลับมาพบกันใหม่นะครับ สวัสดีครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น