บลจ.ทหารไทยชวนกระจายพอร์ตลงทุน ลุยสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย

บลจ.ทหารไทยชวนกระจายพอร์ตลงทุน ลุยสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย รับกระแสเศรษฐกิจต่างประเทศเติบโต ล่าสุดเปิดตัวกองทุน TMB Global Quality Growth กระจายลงทุนหุ้นพื้นฐานดี เติบโตสูงทั่วโลก เปิดขายครั้งแรก (IPO) วันที่ 16-20 มีนาคม 2558

นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บลจ.ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของการลงทุนในโลก ในสหรัฐฯ เศรษฐกิจที่ดีขึ้น ในตลาดแรงงานที่มีการว่างงานลดลง มีการใช้จ่ายบริโภคมากขึ้น มีเงินเฟ้อที่ต่ำจากราคาน้ำมันที่ลดลง

ขณะที่ยุโรปเศรษฐกิจเริ่มคลายความกังวลจากภาวะเงินฝืดหลังมีตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้น รวมทั้งตัวเลขการผลิตของเยอรมนีและอังกฤษที่ออกมาดี และเงินยูโรที่อ่อนค่าส่งผลดีต่อการส่งออกต่างๆ ด้านญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่ตลาดหุ้นจะมีแรงซื้อมากขึ้นจากกองทุนบำเหน็จบำนาญราชการที่เข้าลงทุนในหุ้น รวมถึงการเลื่อนการขึ้นภาษี ที่ทำให้การใช้จ่ายยังมีการเติบโต และเงินเยนที่อ่อนค่าส่งผลบวกต่อการส่งออก ส่วนประเทศอื่นในเอเชียอย่างอินเดีย และจีน ก็มีการปฏิรูปประเทศ มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการเติบโต

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าดัชนีหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ต้นปีหลังความกังวลในเรื่องปัญหารัสเซียกับยูเครนลดลงไป ในช่วงนี้จึงเป็นจังหวะที่น่าลงทุนโดยการกระจายลงทุนในทั่วโลก บลจ.ทหารไทยจึงออกกองทุนเปิด TMB Global Quality Growth จะเปิดขายครั้งแรก (IPO) วันที่ 16-20 มีนาคม 2558 เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพพื้นฐานดีทั่วโลก ผ่านกองทุนหลัก คือ กองทุน Wellington Management Protfolios (LUX) - Global Quality Growth ซึ่งให้น้ำหนักการลงทุนในกลุ่มการแพทย์ บริการด้านการปรึกษาลงทุน อุตสาหกรรมยา อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โทรศ์พท์ โดยมีสัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐฯ 60-70% ยุโรป 20% ตลาดเกิดใหม่และเอเชีย 10%

“จากภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นสูงทำให้การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจึงไม่เร็ว ในปีนี้เรามองการลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและดูเรื่องราคาเป็นการประกอบการลงทุน และเชื่อว่าการจัดสรรลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเลือกลงทุนในภูมิภาคที่มีความน่าสนใจทั้ง สหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย เป็นการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง ทาง บลจ.ทหารไทยก็มีกองทุนในหลายภูมิภาคครอบคลุม” นายสมจินต์กล่าว

สำหรับกองทุนหลักนั้น การบริหารกองทุนแบบเชิงรุกไม่จำกัดการลงทุนอยู่เพียงประเทศใดประเทศหนึ่งหรือภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง โดยคัดกรองบริษัททั่วโลกที่ผ่านเกณฑ์ที่สำคัญ ได้แก่ ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด (cash flow) ศักยภาพในการเติบโตของรายได้ และความสม่ำเสมอของการจ่ายเงินปันผล

หลังจากนั้นทีมผู้บริหารกองทุนจะเข้าไปทำวิจัยในเชิงลึกเป็นรายบริษัท (Bottom Up) เพื่อเฟ้นหาบริษัท 60-90 บริษัทที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง จากทั้งหมด 3,000 บริษัทเพื่อประกอบเป็นพอร์ตการลงทุน และเนื่องจากหุ้นที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกมีคุณภาพและมาตรฐานที่แตกต่างกันออกไป กองทุนจึงใช้เกณฑ์กระแสเงินสดเป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญเพื่อพิจารณาคัดเลือกบริษัท เนื่องจากเงินสดนั้นยากต่อการตบแต่งตัวเลข ในขณะที่กำไรทางบัญชี (Accounting earnings) นั้นมีการตบแต่งตัวเลขได้ง่ายกว่า

“เรามั่นใจว่าในระยะยาวหุ้นจะเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ และยังเชื่อว่าหุ้นพื้นฐานดี เติบโตอย่างมีคุณภาพมีอยู่ทั่วโลก ดังนั้น การสร้างโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลกได้นั้นจะช่วยกระจายความเสี่ยงของการลงทุน และที่สุดแล้วจะช่วยเสริมสร้างความมั่งคั่งที่ดี (Good Wealth) ให้แก่ผู้ลงทุนได้” นายสมจินต์กล่าว