บลจ.ฟินันซ่าชี้แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจมีความล่าช้า แต่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมชูทางเลือกลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น 3 เดือนช่วยกระจายเสี่ยง
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟินันซ่า จำกัด เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องแต่ยังขยายตัวในระดับต่ำ โดยแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมีความล่าช้า เนื่องจากต้องใช้เวลาในการศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนในโครงการดังกล่าว ส่งผลให้การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2558 ต่ำกว่าเป้าหมาย
สำหรับทิศทางของอัตราดอกเบี้ย คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับต่ำที่ 2.00% ในการประชุมครั้งล่าสุด หากเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อยังคงขยายตัวในระดับต่ำเช่นนี้อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมในระยะถัดไป ด้านปัจจัยภายนอกประเทศ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทั้งในยุโรป จีน ญี่ปุ่น และรัสเซีย แม้ว่าธนาคารกลางต่างๆ จะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแล้วก็ตาม โดยล่าสุดธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลและเอกชนเดือนละ 60,000 ล้านยูโร
โดยจะเริ่มเข้าซื้อตั้งแต่เดือนมีนาคม 2558 ถึงเดือนกันยายน 2559 และธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (PBOC) ได้ปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50% ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบได้ อย่างไรก็ตาม การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีต่างๆ อาจต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน นอกจากนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP โลกปี 2558 และปี 2559 ลงมา ปัจจัยเหล่านี้เป็นปัจจัยที่กดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงในระดับต่ำและอัตราผลตอบแทนที่ดีจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
ทั้งนี้ บลจ.ฟินันซ่าจึงออกเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ 3 เดือน ชื่อกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 3เดือน2 (FAM FIPR3M2) โดยมีอัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 2.50% ต่อปี เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 17-24 ก.พ. 2558 ซึ่งเป็นกองทุนที่โรลโอเวอร์มาจากการขายกองทุนก่อนหน้านี้ เป็นกองทุน Specific fund ทั้งนี้กองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงด้านการแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
สำหรับกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 3เดือน2 (FAM FIPR3M2) จะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน และ/หรือ เงินฝากของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD, CNY, HKD, EUR, JPY กับธนาคาร BOC (Macau), Standard Chartered Bank (Hong Kong), ธนาคาร CIMB Niaga (Indonesia), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตั๋วแลกเงิน บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (BBB+), ตั๋วแลกเงิน บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (BBB+), ตั๋วแลกเงิน บจ.บีเอสแอล ลีสซิ่ง (BBB) หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB ขึ้นไป, ตั๋วเงินคลัง หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น