xs
xsm
sm
md
lg

บลจ.ทหารไทยชี้ยุโรปทำ QE ทำให้ยังมีเม็ดเงินไหลเข้าลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งหุ้นไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ทหารไทย มอง ยุโรปทำ QE ทำให้ยังมีเม็ดเงินไหลเข้าลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งหุ้นไทย ล่าสุดเผย AUM ปีที่ผ่านมาเติบโตแตะ 2 แสนล้าน เตรียมออกกองทุนต่างประเทศผลตอบแทนสูง ทั้งหุ้นจีน ญี่ปุ่น และอเมริกา

นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวถึงมุมองการลงทุนปีนี้มองว่า แนวโน้มเม็ดเงินลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยจากนี้ไปมีโอกาสกลับมาเข้ามาลงทุนมากขึ้น หลังจากธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน QE เฉลี่ยเดือนละ 60,000 ล้านยูโร ซึ่งเม็ดเงินดังกล่าวถือมีจำนวนสูงมากเมื่อเทียบกับ QE ช่วงที่ผ่านมา ส่วนเม็ดเงินลงทุนดังกล่าวจะไหลเข้าตลาดทุนไทยมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยเข้ามาประกอบ

ทั้งนี้เนื่องจากหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ทำให้นักลงทุนต่างชาติมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น สำหรับประเทศไทยขึ้นอยู่กับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก หากแผนการเบิกจ่ายของภาครัฐเกิดขึ้นเร็ว รวมถึงแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆเข้ามาประกอบด้วย ก็ช่วยเพิ่มความสนใจให้กับนักลงทุนต่างชาติให้กลับเข้ามาลงทุนในตลาดทุนไทยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความหวือหวาของตลาดหุ้นไทยจากเม็ดเงินลงทุนนอกไหลเข้าปีนี้อาจจะเบาบาง ไม่หวือหวาเหมือนช่วงที่ผ่านมา

ส่วนตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ดัชนีเกิน 1,600 จุดตามกระแสเงินไหลเข้าจากนักลงทุนต่างชาติที่หันกลับมาลงทุนมากขึ้น แต่เม็ดเงินจะกลับเข้ามามากน้อยขึ้นอยู่กับปัจจัยบวกที่กล่าวมาข้างต้นเป็นหลัก ส่วนเม็ดเงินลงทุนที่ไหลกลับเข้ามารอบนี้ยังคงเน้นหุ้นขนาดใหญ่ อย่างหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มสื่อสาร และกลุ่มก่อสร้าง เพราะหุ้นกลุ่มดังกล่าวจะได้รับอานิสงค์จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

“ฟันด์โฟว์ช่วงนี้เริ่มกลับเข้ามาตามกระเงินลงทุนที่มีมากขึ้น หลัง ECB เพิ่มวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรปผ่านมาตรการ QE ต่อเดือนที่ 60,000 ล้านยูโร แต่เงินที่ไหลออกมานั้น นักลงทุนอาจมีการคัดกรองมากขึ้นเลือกประเทศที่จะเข้าลงทุน เลือกกลุ่มหุ้นที่จะเข้าลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียมีตลาดทุนในหลายประเทศที่มีศักยภาพในการทำกำไรดี นักลงทุนจึงมีหลายทางเลาอกในการลงทุน” นายสมจินต์ กล่าว

นายสมจินต์ กล่าวต่อว่า สำหรับผลการดำเนินงานบริษัทช่วงปีที่ผ่านมา มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) เพิ่มขึ้นจาก 160,000 ล้านบาทมาแตะที่ 200,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นปีที่ดีสำหรับตัวบริษัท โดยบริษัทยังคงงวางแผนการเติบโตของธุรกิจในปีนี้เติบโตต่อเนื่อง และเชื่อว่าธุรกิจของบลจ.ทหารไทยปีนี้จะเติบโตกว่าอุตสาหกรรมแน่นอน ส่วนเป้าหมาย AUM ปีนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาการตั้งเป้าหมายของคณะกรรมการบริษัทและบริษัทแม่อย่างธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มอัตราการเตบโตของบริษัท เน้นในเรื่องของการรักษาฐานลูกค้าเก่าและเพิ่มผ่านลูกค้าใหม่ผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ที่บริษัทจะออกมานำเสนอให้กับนักลงทุนปีนี้มากขึ้น โดยไม่จำกัดการลงทุนแค่ในประเทศเพียงอย่างเดียว แต่จะกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศด้วย เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง และเพิ่มช่องทางในการสร้างผลตอบแทนให้โตอย่างสม่ำเสมอ

“บริษัทยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่เข้ามา สินค้าที่บริษัทนำเสนอในปีนี้จะเน้นทั้งในประเทศและต่างประเทศใหม่ควบคู่กันไป เพราะโอกาสได้รับผลตอบแทนในระดับสูงจากการลงทุนในต่างประเทศมีมาก ทั้งในตลาดสหรัฐอเมริกา ตลาดญี่ปุ่น และตลาดจีน เพราะตลาดเหล่านี้กลับมาฟื้นตัวต่อเนื่องอย่างเห็ฯได้ชัด" 


กำลังโหลดความคิดเห็น