xs
xsm
sm
md
lg

คาดปี58ประกันชีวิตโต15% จ่อปรับสินค้ารับสังคมสูงวัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไทยประกันชีวิต คาดปีแพะทองแจ่ม ธุรกิจประกันชีวิตโต 10-15% รับอานิสงส์เศรษฐกิจฟื้น จีดีพีโต 4.8% แถมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐช่วยหนุน ระบุปีหน้าแข่งดุขึ้นทั้งเรื่องสินค้า และช่องทางการขาย หลังสังคมไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น

ดร.อภิรักษ์ ไทพัฒนกุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตในปีหน้า(2558) เชื่อว่าจะขยายตัวตามเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นในปีหน้า โดยธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะเติบโตอยู่ที่ระดับ 4.8% นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงกฎระเบียบภาครัฐซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตลาดของธุรกิจประกันชีวิต

ทั้งนี้คาดว่า ในปี2558ธุรกิจประกันชีวิตจะมีเบี้ยประกันภัยรับรวมเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% - 15% ซึ่งการแข่งขันของธุรกิจ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อการขยายตัวของธุรกิจในปีหน้า และจะทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากการแข่งขันมากขึ้น ขณะเดียวกันการเปิด AEC ทำให้กลุ่มเป้าหมายมีจำนวนมากขึ้น

"นอกจากเศรษฐกิจในปีหน้าแล้ว มาตรการของภาครัฐไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บภาษีมรดก หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองเงินฝาก ที่จะให้ความคุ้มครองลดลงเหลือ 25 ล้านบาท ต่อผู้ฝากหนึ่งราย และในปี 2559 จะลดความคุ้มครองลงเหลือ 1 ล้านบาท ต่อผู้ฝากหนึ่งราย รวมถึงการลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันชีวิต ที่สามารถหักค่าลดหย่อนได้สูงสุดถึง 3 แสนบาท ก็น่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจฯมากขึ้น อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากเสถียรภาพการเมือง ซึ่งส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประชาชน และการระดมเงินทุนจากภาครัฐ ที่อาจจะส่งผลต่อการขยายตลาดด้วยสินค้าออมทรัพย์ประกันชีวิต”ดร.อภิรักษ์กล่าว

ดร.อภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ในปีหน้า ธุรกิจประกันชีวิตจะมีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไป จากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพเศรษฐกิจและสังคม โดยทิศทางของสินค้าประกันชีวิตในปี 2558 จะประกอบด้วย สินค้าประเภทบำนาญ เพื่อเป็นทางเลือกในการเตรียมความพร้อมทางการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆในวัยเกษียณ เนื่องจากปัจจุบันโครงสร้างประชากรไทยมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

สำหรับสินค้าประกันสุขภาพ เนื่องจากอัตราค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการรักษา ดังนั้น การเตรียมความพร้อมค่ารักษาพยาบาลจึงเป็นทางเลือกหนึ่งเพื่อช่วยให้ได้รับการรักษาพยาบาลที่ดี และสินค้าประกันสุขภาพที่จะมีการพัฒนาขึ้นมาใหม่นั้น จะกำหนดผลประโยชน์ความคุ้มครองที่ประชาชนสามารถเข้าใจได้ง่าย ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม และจะลดข้อจำกัดในการเข้าถึงสินค้า ด้วยเกณฑ์การรับประกันที่มีความผ่อนปรน

ส่วนสินค้าเพื่อการลดหย่อนภาษี เบี้ยประกันชีวิตสามารถนำไปหักค่าลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 3 แสนบาท โดยแบ่งเป็นเบี้ยประกันชีวิต 1 แสนบาท และเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญอีก 2 แสนบาท (ทั้งนี้ แบบประกันต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด) ซึ่งสินค้าแบบออมทรัพย์จะมีการพัฒนาออกมาเป็นทางเลือกมากขึ้น เพื่อช่วยในการประหยัดภาษี โดยเฉพาะแบบออมทรัพย์ที่ชำระเบี้ยประกันระยะสั้นที่สามารถปลดภาระการชำระเบี้ยประกันได้อย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างหลักประกันชีวิตควบคู่กันไป

ขณะที่สินค้าพ่วงการลงทุน ทั้งแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์และยูนิตลิงค์ โดยขายผ่านช่องทางตัวแทนและธนาคารเป็นหลัก เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการวางแผนทางการเงินในอนาคตพร้อมกับการสร้างหลักประกันชีวิต โดยผู้เอาประกันภัยมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงสอดคล้องกับผลตอบแทนของแต่ละกองทุน

ดร.อภิรักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับช่องทางการขายในปีหน้านั้นเชื่อว่า ช่องทางตัวแทนและการขายผ่านธนาคาร หรือ Bancassurance ยังคงเป็นช่องทางการขายหลัก โดยในช่องทางตัวแทนจะมีการเน้นด้านการพัฒนาตัวแทนสู่การเป็นนักวางแผนทางการเงิน และจะมีการพัฒนาเครื่องมือหรือแอพพลิเคชั่นสำหรับตัวแทน เพื่อช่วยสนับสนุนในด้านของการขาย ส่วนช่องทาง Bancassurance จะมีการแข่งขันกันเพิ่มขึ้น ทั้งด้านสินค้าและการบริการที่มีความครอบคลุมมากขึ้น

สำหรับช่องทาง Direct marketing ยังคงมีการขยายตลาดผ่านสื่อประเภท Mass เช่น โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์ ด้วยรูปแบบสินค้าที่มีความหลากหลาย ตลอดจนมีการพัฒนาช่องทางการขายตรงผ่านระบบออนไลน์ที่มีความสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ การเพิ่มพันธมิตรทางการตลาดในธุรกิจที่มีฐานลูกค้าจำนวนมาก เพื่อขยายตลาดในช่องทางอื่นๆ อาทิ รูปแบบของโบรคเกอร์ ก็จะช่วยสร้างโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ


กำลังโหลดความคิดเห็น