xs
xsm
sm
md
lg

ไทยพาณิชย์คาดเม็ดเงินลงทุน LTF-RMF ไหลเข้าตลาดกว่า 2 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ไทยพาณิชย์มองดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้แตะ 1,500 จุด คาดจะมีเม็ดเงินกองทุน LTF-RMF ไหลเข้าลงทุนประมาณ 20,000 ล้านบาท ล่าสุดส่งทริกเกอร์ฟันด์ลุยหุ้นไทย ตั้งเป้าผลตอบแทน 6% ภายใน 7 เดือน เชื่อปีหน้าดัชนียังเติบโตไปได้อีก

นายสมิทธิ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยภายในสิ้นปีนี้จะทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเม็ดเงินลงทุนของกองทุน LTF และ RMF ที่คาดว่าจะมีไหลเข้ามาในตลาดประมาณ 20,000 ล้านบาท ขณะที่แรงขายของต่างชาติก็ลดลงจึงมองเป้าหมายดัชนีหลักทรัพย์ในปีนี้ที่ระดับ 1,500 จุด

สำหรับภาพรวมการลงทุนในปี 2558 มองว่าในช่วงครึ่งแรกของปีหุ้นยังคงเป็นสินทรัพย์ที่จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น  เนื่องจากประเทศสำคัญของโลกฟื้นตัวได้ ทั้งจากการฟื้นได้ด้วยตัวเองหรือฟื้นจากการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่างๆ ทำให้เกิดกำลังซื้อและการขยายการลงทุนของกิจการซึ่งเป็นผลบวกต่อผลกำไรของบริษัทต่างๆ ในตลาดหุ้น โดยมาตรการกระตุ้นต่างๆ ก่อให้เกิดภาวะดอกเบี้ยในระดับต่ำ และเม็ดเงินสภาพคล่องในระบบยังคงมีสูงทำให้มีแรงซื้อหนุนเข้ามาในตลาดหุ้นต่อเนี่อง

นายสมิทธ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยโดยรวมสามารถฟื้นตัวได้จากฐานที่ต่ำ  ในขณะที่มีบางธุรกิจที่ฟื้นตัวได้จริงประกอบกับตลาดปรับตัวลงลึกจนถึงระดับที่น่าสนใจลงทุนแล้ว  คาดว่าเม็ดเงินในประเทศจะมีบทบาทที่สูงต่อทิศทางราคาหุ้นซึ่งจะทำให้หุ้นขนาดกลาง-เล็กปรับขึ้นได้ดีกว่าหุ้นขนาดใหญ่ เนื่องจากเม็ดเงินในประเทศจะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้เป็นหลัก

ล่าสุดบริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ทริกเกอร์ 3% พลัส 3% ฟันด์ เอ  (SCB TRIGGER 3% PLUS 3% FUND A หรือ SCBTG3P3A ) มูลค่า 1,000 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 18-22 ธันวาคม 2557 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท ตั้งเป้าหมายผลตอบแทน 6% ภายในระยะเวลา  7 เดือน 

ทั้งนี้ กองทุน SCBTG3P3A  มีนโยบายการลงทุนในหุ้นแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุน และมีกลยุทธ์เชิงรุก (Actively Managed) โดยเน้นลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มหรือปัจจัยพื้นฐานที่ดีในตลาดหุ้นไทย  ซึ่งการปรับสัดส่วนการลงทุนจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน 

 เนื่องจากมองว่าช่วงนี้เป็นจังหวะและโอกาสที่เหมาะสมในการเข้าไปลงทุน  เพราะราคาหุ้นและดัชนีหลักทรัพย์ที่ได้ปรับตัวลดลงอย่างมาก  โดยคาดผลตอบแทนประมาณ 6% ภายใน 7 เดือน  ซึ่งจุดเด่นคือมีการทริกเกอร์ 2 ครั้ง ครั้งละ 3% เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนระหว่างทางเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนเข้าเงื่อนไขในแต่ละช่วงตามที่กำหนด 


กำลังโหลดความคิดเห็น