ดับบลิวเอชเอชูกองทรัสต์ WHART ให้ยิลด์สูง เตรียมเปิดขายหน่วยลงทุน 1-4 ธ.ค.นี้ พร้อมแผนซื้อสินทรัพย์ต่อเนื่องทุกปี ตั้งเป้า 5 ปี โต 50,000 ล้านบาท
นายแพทย์ สมยศ อนันตประยูร ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า กองทรัสต์ WHART น่าจะเปิดให้จองซื้อได้วันที่ 1-4 ธ.ค.นี้ หลังจากนั้นจะดำเนินการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2557 โดยสัดส่วนการขายหน่วยลงทุนนั้น ทาง WHAREM จะถือสัดส่วนลงทุน 15% อีก 85% จะขายให้นักลงทุนสถาบันและรายย่อยในสัดส่วน 50-50 เท่าๆ กัน
ส่วนการกำหนดราคาเสนอขายหน่วยลงทุนนั้น ทางบริษัท WHA จะถือสัดส่วนลงทุน 15% ที่เหลือ 85% จะขายให้นักลงทุนสถาบันและรายย่อยเท่าๆ กัน ซึ่งกลุ่มนักลงทุนสถาบันส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่เคยลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) โดย WHA จะรับรู้รายได้จากการขายสินทรัพย์ประเภทศูนย์กระจายสินค้าเข้ากอง WHART มูลค่าประมาณ 4,500 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2557 นี้
ด้าน นายปิยะพงศ์ พินธุประภา กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียลเอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด (WHAREM) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ WHART กล่าวว่า กองทรัสต์ WHART จะเข้าลงทุนในกรรมสิทธิ์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ในศูนย์กระจายสินค้า 3 โครงการ รวมพื้นที่เช่าอาคาร 167,107.45 ตร.ม. คือ กรรมสิทธิ์ในโครงการศูนย์กระจายสินค้า WHA ลาดกระบัง Phase 1&2 พื้นที่เช่าอาคาร 35,092.97 ตร.ม. กรรมสิทธิ์ในโครงการ WHA Mega Logistics Center (ถนนบางนา-ตราด กม.23) พื้นที่เช่าอาคาร 59,835 ตร.ม. และสิทธิการเช่าโครงการ WHA Mega Logistics Center (ถนนบางนา-ตราด กม.18) พื้นที่เช่าอาคาร 72,179.48 ตร.ม. เชื่อว่ากองรีต WHART จะสร้างอัตราผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยได้มากกว่ากองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป คาดว่าจะอยู่ประมาณ 7-7.4%
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของกองทรัสต์ WHART จะมาจาก 2 ส่วนหลัก คือ จากการปรับเพิ่มขึ้นของค่าเช่าประมาณ 10% ทุกๆ 3 ปี และจากการลงทุนเพิ่ม ซึ่งคาดว่าจะมีการเพิ่มทุนทุกๆ ปี โดยเบื้องต้นวางเป้าหมายซื้อทรัพย์สินจาก WHA 4,000-5,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะสามารถแสดงถึงการเติบโตที่มีเสถียรภาพและยั่งยืนของกองทรัสต์ WHART ได้เป็นอย่างดี และได้ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 5 ปีกองทรัสต์ WHARTจะมีมูลค่าสินทรัพย์ประมาณ 50,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้เช่าอาคารคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าที่กองทรัสต์ WHART จะลงทุนนั้นเป็นบริษัทชั้นนำที่น่าเชื่อถือทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เช่น ดีทแฮล์ม, สตาร์บัคส์, นิสสัน มอเตอร์, ฮิตาชิ ทรานสปอร์ต, แม็คกรุ๊ป และกลุ่มลูกค้าผู้ให้บริการด้านลอจิสติกส์ และสัญญาเช่าส่วนใหญ่โดยรวมเฉลี่ย 7 ปี รวมถึงมีอัตราการปรับค่าเช่าที่แน่นอน นอกจากนี้ ทางกองทรัสต์ WHART ยังจะได้รับค่าเช่าเพิ่มเติมจากการปล่อยเช่าหลังคาของอาคารคลังสินค้า เพื่อติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) ด้วยอายุสัญญาเช่าประมาณ 25 ปี คิดเป็นรายได้ประมาณ 1% ของกองนี้