มาแล้ว Wearable Tech จากไมโครซอฟท์ (Microsoft) ในชื่อ “Microsoft Band” โดยเปิดตัวเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐอเมริกา แถมสนนราคาของ Microsoft Band ยังน่าสนใจที่ 199 เหรียญสหรัฐเท่านั้น
พร้อมกันนี้ ทางบริษัทยังได้เปิดตัวแพลตฟอร์มด้านสุขภาพที่มาพร้อมสายรัดข้อมือในชื่อ Microsoft Health ด้วย โดยสามารถทำงานได้กับทุกแพลตฟอร์มทั้ง iOS-แอนดรอยด์ แน่นอนว่ารวมถึงวินโดวส์โฟนด้วย แต่พิเศษสำหรับวินโดวส์โฟนก็คือสายรัดข้อมือ ซัพพอร์ต Cortana voice assistant ของไมโครซอฟท์ด้วยนั่นเอง นอกจากนั้นยังสามารถทำงานร่วมกับ MyMapFitness และ RunKeeper สองแอปส์ฟิตเนสชื่อดังได้ด้วย
ในส่วนของการวางจำหน่าย ไมโครซอฟท์จะเริ่มวางจำหน่ายทันทีตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้ (30 ต.ค.) เป็นต้นไป โดยหาซื้อได้จากร้านค้าหรือทางออนไลน์
สำหรับ Wearable Tech จากไมโครซอฟท์จะมุ่งเน้นทางด้านสุขภาพเป็นหลัก โดยมาพร้อม GPS แบบบิวต์อิน และเซนเซอร์ที่ช่วยเก็บข้อมูลต่างๆ ของผู้ใช้ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ, เซนเซอร์วัดปริมาณแสง UV ที่ได้รับ และเซนเซอร์ตรวจวัดด้านอื่นๆ อีกนับ 10 ตัว
อย่างไรก็ดี การเปิดตัวครั้งนี้ถือได้ว่าช้ากว่าคู่แข่งร่วมซิลิคอนวัลเล่ย์อย่างแอปเปิล Apple) กูเกิล (Google) รวมถึงคู่แข่งจากเกาหลีใต้อย่างซัมซุงนานทีเดียว กว่าที่ไมโครซอฟท์จะส่งโปรดักซ์ของตนเองลงตลาดกับเขาบ้าง ซึ่งในกรณีนี้อาจเป็นประเด็นที่ว่า ไมโครซอฟท์ไม่อยากถูกทิ้งไว้ข้างหลังตามลำพังก็เป็นได้
จุดที่แตกต่างประการหนึ่งของ Wearable Tech จากไมโครซอฟท์ก็คือ การพัฒนาให้สามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ รวมถึงเชื่อมต่อเข้ากับโซเชียลเน็ตเวิร์กเช่น เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์
จากการเปิดตัว Microsoft Band ไมโครซอฟท์ยังมาพร้อมพาร์ตเนอร์รายใหญ่อย่าง สตาร์บัคส์ที่จะมี Gift card barcode พิเศษ สำหรับลูกค้าที่สวมสายรัดข้อมือดังกล่าวด้วย
***ปลดพนักงานรอบใหม่เริ่มแล้ว
วันเดียวกับการเปิดตัว Microsoft Band ข่าวการปลดพนักงานรอบใหม่ก็เกิดขึ้นตามมา โดยทางบริษัทประกาศว่าจะมีพนักงานราว 3,000 ตำแหน่งถูกเลิกจ้าง โดยส่วนใหญ่จะมาจากฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ฝ่ายการเงิน ฝ่ายการขายและการตลาด และฝ่ายไอที ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งในแผนการลดพนักงาน 18,000 ตำแหน่งที่บริษัทประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การลดพนักงานครั้งประวัติศาสตร์ 18,000 ตำแหน่งของไมโครซอฟท์เริ่มขึ้นหลังจากบริษัททำการควบรวมธุรกิจกับโนเกีย โดยในครั้งแรก บริษัทลดพนักงานไปมากถึง 13,000 ตำแหน่ง ต่อมาในเดือนกันยายน บริษัทลดพนักงานไปอีกราว 2,100 ตำแหน่ง และมาในครั้งนี้อีก 3,000 ตำแหน่ง