สามัคคีประกันภัยย้ำสัมพันธ์ SCB แน่นปึ้ก เล็งขยายช่องทางใหม่รุกตัวแทนเต็มสูบ ตั้งเป้าปีหน้ารับเพิ่มอีกกว่า 1 พันคน ระบุภาพรวมธุรกิจประกันภัยปีหน้าโตเพิ่ม หลังเศรษฐกิจฟื้นปัจจัยบวกมากกว่าปี 57 พร้อมโชว์ผลงาน 9 เดือนกำไรสุทธิโต 27% รับอานิสงส์ผู้ถือหุ้นใหม่
นางสาวนิตยา พิริยะธรรมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับธนาคารไทยพาณิชย์นั้นยังคงมีความร่วมมือกันต่อไปในอนาคต และเชื่อว่าธนาคารฯ เองจะให้ความสำคัญต่อบริษัทมาเป็นอันดับแรกถึงแม้จะมีการเปลี่ยนสถานะหลังจากการขายหุ้นให้ ACE กรุ๊ปแล้วก็ตาม ซึ่งน่าจะเป็นไปตามข้อตกลงทางธุรกิจเดิมในช่วงที่มีการขายหุ้นออกไป โดยการเข้าซื้อขายหุ้นและเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่มาเป็น ACE กรุ๊ปนั้น เป็นเรื่องที่ธนาคารพิจารณาและคัดเลือกเองอีกด้วย
ส่วนแผนงานในอนาคตนั้น ทางบริษัทมีความพยายามที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายเพิ่มเติม หลังจากปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนเบี้ยรับรวมมาจากช่องทางธนาคารเป็นหลัก โดยช่องทางที่จะพัฒนาเพิ่มเติมขึ้นอีกในอนาคตจะเป็นช่องทางการขายผ่านตัวแทน โดยตั้งเป้าที่จะมีตัวแทนขายเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 1,000 คนเป็น 2,000-2,500 คนในปีหน้า และจะถือเป็นการขยายฐานลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้นในอนาคตอีกด้วย
“สัดส่วนปัจจุบันมากกว่า 50% มาจากแบงก์ และหลังจากนี้คงจะหันมาเน้นตัวแทนมากขึ้น รวมถึงช่องทางโบรกเกอร์ด้วย ซึ่งหวังว่าต่อไปสัดส่วนจะเฉลี่ยมาเป็นแบบ 50-50 ได้ ส่วนด้านผลิตภัณฑ์ตอนนี้เราถือว่ามีการกระจายสัดส่วนที่ดี เพราะเรามีพอร์ตเบี้ยรับจากรถยนต์ประมาณ 30% กว่าๆ อุบัติเหตุส่วนบุคคลกับสุขภาพ 30% และประกันภัยทรัพย์สินอีก 30% โดยหลังจากเราขยายช่องทางตัวแทนแล้วเบี้ยประกันในส่วนของอุบัติเหตุส่วนบุคคลและประกันสุขภาพน่าจะเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต”
ขณะที่แนวโน้มธุรกิจประกันภัยในปีหน้าคาดว่าจะมีการเติบโตได้ดีกว่าในปีนี้เนื่องจากปัจจัยบวกที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการเติบโตของเศรษฐกิจไทยซึ่งน่าจะส่งผลต่อกำลังซื้อ และการบริโภคในปีหน้า อย่างไรก็ตาม การเติบโตของธุรกิจประกันภัยคงจะไม่สูงมากเหมือนในช่วงก่อนหน้าในระดับ 15-20% แต่คงจะเป็นการเติบโตที่ฟื้นตัวขึ้นจากปี 2557 มากกว่า
ส่วนภาพรวมของปีนี้ ธุรกิจประกันภัยได้รับแรงกดดันจากหลายปัจจัย ทั้งยอดขายรถยนต์ สินเชื่อ และเบี้ยประกันภัยที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้การเติบโตของธุรกิจประกันภัยในปีนี้ปรับตัวลดลงตามไปด้วย
กำไรสุทธิโต 27%
นางสาวนิตยา กล่าวอีกว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 637 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 502 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 27% โดยแบ่งเป็นกำไรจากการรับประกันภัย 591 ล้านบาท และเป็นรายได้จากการลงทุน 194 ล้านบาท โดยมีเบี้ยรับรวม 3,813 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยรับสุทธิภายหลังการประกันภัยต่อที่ 3,344 ล้านบาท
ทั้งนี้ กำไรจากการรับประกันภัยถือว่ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากสุดที่ 27.5% เนื่องจากความสามารถในการรับความเสี่ยงของบริษัทที่เพิ่มขึ้นภายหลังจากมีการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่วนกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 22% มาอยู่ที่ 194 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ 159 ล้านบาท
“การที่เรามีกำไรดีขึ้นมาจากที่เรารับความเสี่ยงได้มากขึ้น ซึ่งจากก่อนที่ ACE กรุ๊ปยังไม่เข้ามาเรารับความเสี่ยงได้ต่อรายประมาณ 300 ล้านบาท แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 1,500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า หรือเป็นตัวเลขในปีที่ผ่านมาคือเพิ่มขึ้น 7.1% แต่กลับมีค่าใช้จ่ายด้านสินไหมลดลงถึงเกือบ 9% ตรงนี้จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ผลงานของเราในช่วง 9 เดือนของปีนี้ดีขึ้นมาก”
นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินการจ่ายสินไหมน้ำท่วมในปี 2554 ครบตามจำนวนที่ผู้เอาประกันยื่นขอแล้วที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยในส่วนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการเรียกร้องต่อจากบริษัทประกันภัยต่อในต่างประเทศนั้นบริษัทได้มีการสำรองหนี้สูญเอาไว้แล้วเต็มจำนวนอีกด้วย