คอลัมน์ ชวน "คนไทยใช้กองทุนรวม"
โดยบลจ.กรุงศรี
โดยปกติแล้ว เราควรใช้หลักการใดในการพิจารณาลงทุนในกองทุน LTF & RMF อย่างถูกต้อง? สิ่งนี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนผู้สียภาษีทุกคนตั้งคำถาม แต่น้อยคนนักที่จะได้คำตอบที่ถูกต้อง สาเหตุเป็นเพราะ ถึงแม้จะเป็นกองทุนประเภทเดียวกัน แต่ก็แตกต่างกันด้วยนโยบายการลงทุน ระดับความเสี่ยง และหลักการในการบริหาร รวมถึงมุมอื่นๆ บทความนี้เกิดจากการรวบรวมข้อผิดพลาดที่ผู้ประหยัดภาษีมักเข้าใจผิด และเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำไว้ 5 ข้อหลัก ๆ ด้วยกัน มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
1.อย่ามองแค่ผลตอบแทนระยะสั้น
วัตถุประสงค์ของการลงทุนในกองทุน LTF & RMF มี 2 ข้อคือ ประหยัดภาษี และเน้นการลงทุนในระยะยาว น่าเสียดายตรงที่นักลงทุนส่วนใหญ่มองเรื่องของภาษีเป็นหลัก และมองผลตอบแทนในระยะยาวเป็นเรื่องรอง โดยให้ความสนใจแค่ผลตอบแทนระยะสั้นๆว่า 3 เดือนที่แล้ว 6 เดือนที่ผ่านมา หรือไกลสุดย้อนไปดู 1 ปีก่อนหน้าว่าแต่ละกองทุนได้ผลตอบแทนเป็นอย่างไร กองทุนใดสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุด แต่กลับลืมไปว่าระยะเวลาการถือครองกองทุน LTF อย่างน้อยๆ คือ 3ปีปฎิทิน สำหรับกองทุน RMF นั้น มีระยะเวลาการถือครองยาวนานกว่า โดยผู้ลงทุนจะขายหน่วยลงทุนก็ตอนเกษียณอายุ และ การถือครองต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของสรรพากร ดังนั้น อย่าดูแค่ผลตอบแทนระยะสั้นๆ โดยเฉพาะเรื่องเงินๆทองๆ
2.อย่าซื้อเพราะโปรโมชั่นแรง!!
กองทุนรวม ไม่ใช่การช็อปปิ้ง ใครลดแหลก ทั้งแจกทั้งแถมเยอะสุด แปลว่า กองทุนนั้นน่าลงทุนที่สุด ถ้าคิดแบบนี้ ถือว่า “คิดผิด” โปรโมชั่นล่อใจในระยะสั้น อาจทำให้คุณต้องติดกับดักกับกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนไม่เหมาะสมกับตัวคุณเอง ซึ่งสิ่งที่ตามมาคือ ผลตอบแทนที่ได้รับเมื่อขายคืนหน่วยลงทุนมีมูลค่าน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ แถมของโปรโมชั่นที่ได้รับแจกตั้งแต่ตอนลงทุน ก็อาจใช้ไม่คุ้ม หรือวางทิ้งในบ้านจนลืมไปเลยก็มี อาจมีนักลงทุนบางท่านแย้งว่า “ก็ไม่รู้นี่” ว่ากองทุนใดจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี ก็เลยเลือกของที่ดูชัวร์ที่สุด นั้นก็คือ ของแถม” ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงต้องศึกษานโยบายการลงทุน ระดับความเสี่ยง และผลการดำเนินงานของกองทุนรวม ซึ่งมีความแตกต่างกัน และควรศึกษาคู่มือภาษีให้เข้าใจก่อนการลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก บลจ.หรือธนาคารที่เป็นตัวแทนขายกองทุน
3.อย่าคิดว่า LTF & RMF กองไหนๆก็เหมือนกัน
ถึงแม้จะเป็นกองทุนที่ได้ชื่อว่า LTF&RMF เหมือนกัน แต่จริงๆแล้วนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงาน ก็แตกต่างกันในรายละเอียด ยกตัวอย่างเช่น กองทุน LTF บางกองมีนโยบายกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในตราสารหนี้บางส่วน ในขณะที่บางกองทุนเลือกลงทุนในหุ้นทั้งหมด 100%เต็ม หรือกองทุน RMF ก็มีตัวเลือกทั้งนโยบายที่ลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารทุน ลงทุนในทองคำ หรือกระทั่งกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งมีลักษณะของกองทุนที่แตกต่างกัน หากผู้ลงทุนเลือกลงทุนเพราะคิดว่าเป็นกองทุน RMF เหมือนกัน นักลงทุนก็อาจได้ผลตอบแทนไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง แล้วมานั่งเสียใจเมื่อขายคืนหน่วยลงทุนยามเกษียณ
4.อย่าคิดว่าลงทุนใน LTF & RMF ไปแล้วจะสับเปลี่ยนไม่ได้
จริงๆแล้ว หากเราพบว่ากองทุน LTF & RMF ที่เลือกลงทุนไว้มีนโยบายการลงทุนหรือระดับความเสี่ยงที่ไม่เหมาะกับตนเอง เราสามารถสับเปลี่ยนการลงทุนไปยังกองทุนอื่นภายใต้กองทุนประเภทเดียวกันได้ เช่น การสับเปลี่ยน LTF กองเดิมไปยัง LTF อีกกองหนึ่ง หรือการสับเปลี่ยนกองทุน RMF ไปยังกองทุน RMF ด้วยกัน แต่เราไม่สามารถสับเปลี่ยนจากกองทุน LTF ไปยังกองทุน RMF หรือกองทุนรวมทั่วไปได้
5.อย่าเข้าใจผิดว่าลงทุนไปแล้วไม่สามารถโอนย้าย บลจ.ได้
มีผู้ลงทุนหลายท่านเข้าใจผิดว่าถ้าลงทุนในกองทุน LTF & RMF กับ บลจ.ใดแล้ว จะต้องถือครองไว้จนครบกำหนดตามเงื่อนไขของสรรพากร ในความเป็นจริงแล้วเราสามารถโอนย้ายกองทุน LTF & RMF จาก บลจ.เดิมไปยัง บลจ.อื่นได้ แต่อาจมีค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าธรรมเนียมการโอนย้ายที่บลจ.ต้นทางจะเรียกเก็บ โดย บลจ.แต่ละแห่งจะมีอัตราค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ การโอนย้าย LTF & RMF ข้าม บลจ. ก็จะต้องโอนย้ายกองทุนไปยังกองทุนประเภทเดียวกัน เช่น LTF โอนย้ายไป LTF หรือ RMF โอนย้ายไป RMF ด้วยกัน
สำหรับ บลจ. กรุงศรี มีกองทุน LTF & RMF ที่หลากหลายนโยบายการลงทุน เหมาะกับนักลงทุนทุกประเภทที่ต้องการประหยัดภาษี โดยกองทุนที่ถือเป็นกองทุนโดดเด่น ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล (KFLTFDIV) และ กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผลเพื่อการเลี้ยงชีพ (KFDIVRMF) โดยทั้งสองกองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลดีและหุ้นที่มีราคาหลักทรัพย์ตามราคาตลาดต่ำถึงปานกลาง ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นไทย กองทุนมีความเสี่ยงสูงระดับ 6 จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง และชอบนโยบายการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
ผลตอบแทนย้อนหลังของ กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล (KFLTFDIV) และ กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผลเพื่อการเลี้ยงชีพ (KFDIVRMF) เปรียบเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (Set Index)
การจัดอันดับของ Morningstarthailand ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการจัดอันดับของสมาคมจัดการลงทุนแต่อย่างใด ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงานของกองทุน เอกสารที่เกี่ยวกับกองทุน และคู่มือภาษีได้ได้ที่บริษัทจัดการหรือที่เว็บไซต์ www.krungsriasset.com หรือสำนักงานของผู้สนับสนุนการขายก่อนตัดสินใจลงทุน นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 หรือ เว็บไซต์ www.krungsriasset.com หรือ ติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา