บลจ.กรุงศรีเตรียมจ่ายเงินปันผล 2 กองทุน คือ กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล (KFLTFDIV) ในอัตรา 0.75 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผล (KFSDIV) ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย จ่ายพร้อมกันวันที่ 18 พ.ย.นี้
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลพร้อมกัน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผล (KFSDIV) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 57-30 ก.ย. 57 ในอัตราประมาณ 0.30 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล (KFLTFDIV) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 56-30 ก.ย. 57 ในอัตราประมาณ 0.75 บาทต่อหน่วย มีกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนทั้งสองกองทุนในวันที่ 7 พ.ย. 57 และจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 18 พ.ย. 57
ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2557 บลจ.กรุงศรีมียอดเงินลงทุนใหม่ในกองทุนหุ้นและกองทุน LTF สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรมคิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนใหม่รวมกว่า 6,323 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินลงทุนใหม่ในกองทุนหุ้นมูลค่ากว่า 4,747 ล้านบาท และเงินลงทุนใหม่ในกองทุน LTF มูลค่ากว่า 1,576 ล้านบาท โดยกองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผล (KFSDIV) เป็นกองทุนรวมหุ้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม (Morningstar 30 ก.ย. 57) มีการจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 23 ครั้ง ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2550 จนถึงเดือน ส.ค. 57 เป็นจำนวนเงินรวม 12.25 บาท เป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการรับผลตอบแทนการลงทุนในรูปของเงินปันผลที่ดีและสม่ำเสมอและต้องการโอกาสที่จะได้รับผลกำไรส่วนเกิน
ส่วนกองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล (KFLTFDIV) สามารถจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอทุกปีนับจากวันจัดตั้งกองทุนในปี 2547 จนถึงเดือน พ.ย. 56 โดยกองทุนจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 9 ครั้ง เป็นจำนวนเงินรวม 6.59 บาท นอกจากนี้ กองทุน KFLTFDIV ยังสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปีสูงสุดในกลุ่มกองทุน LTF ทั้งหมดในประเทศไทย โดยมีผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปีอยู่ที่ 202.78% ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 121.13% (Morningstar 30 ก.ย. 57)
โดยกลยุทธ์ในการบริหารกองตราสารทุนจะเน้นคัดเลือกบริษัทที่จะลงทุนแบบ Bottom Up มีการบริหารแบบแอ็กทีฟเชิงวิเคราะห์เจาะลึกในด้านมูลค่าแท้จริงของหลักทรัพย์และการให้น้ำหนักการลงทุนอย่างเหมาะสม โดยจะมีการปรับพอร์ตตามความเหมาะสมทุกเดือนและทุกไตรมาสเพื่อให้สอดคล้องกับปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง