กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นยังขายดี บลจ.พาเหรดเปิดขายไอพีโอชูผลตอบแทนโดนใจนักลงทุน ขณะที่ บลจ.กรุงไทยส่งกองทุนตราสารหนี้อิงหุ้นญี่ปุ่นผสมตราสารหนี้ไทย อายุ 1 ปี มั่นใจหุ้น Nikkei 225 มีอัปไซด์
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยของบริษัทได้คาดการณ์ ภาวะตลาดหุ้นของญี่ปุ่นว่า ในปี 2557 รายได้ของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตประมาณ 12.1% และคาดเป้าหมายสิ้นปีดัชนีไว้ที่ 16,633 จุด ซึ่งหมายถึง Upside ประมาณ 7.52% อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนเงินปันผลค่อนข้างต่ำเพียง 1.8% ทั้งนี้ ถ้าหากมองในเชิงมูลค่าวัดจาก P/E Ratio ของญี่ปุ่นนั้นอยู่ที่ 15.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตตั้งแต่ปี 2006 ที่ 17.6 เท่า แม้ว่าระดับ P/E Ratio ดังกล่าวจะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับตลาดอื่น
ทั้งนี้ บริษัทเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดเคแทม เจแปน อิควิตี้ ลิงค์ คอมเพล็คซ์ รีเทิร์น 1 ปี (KTJEL1Y) ในวันที่ 21-27 สิงหาคม 2557 อายุ 1 ปี มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก ตราสารทางการเงินอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ 95% และส่วนที่เหลือจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงผลตอบแทนจากดัชนี Nikkei 225 ไม่เกินร้อยละ 5
สำหรับเงื่อนไขการลงทุน จะจ่ายผลตอบแทนครั้งเดียวตอนสิ้นอายุโครงการ โดยมีเงื่อนไขดังนี้ กรณีที่ 1 ราคาปิดของสินทรัพย์อ้างอิง คือดัชนี Nikkei 225 เพิ่มขึ้นมากกว่าหรือเท่ากับ 15% ของราคาดัชนี ณ สิ้นวันใดวันหนึ่งของอายุตราสาร ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1% กรณีที่ 2 หากราคาปิดของสินทรัพย์อ้างอิง ณ วันสิ้นสุดอายุตราสารเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาเริ่มต้น แต่ไม่ถึง 15% ของราคาเริ่มต้นจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 0.01-11.99% โดยวิธีการคำนวณใช้ราคาดัชนี Nikkei 225 ณ วันสิ้นอายุตราสาร หารด้วยราคาดัชนี วันที่เริ่มต้นลงทุน ลบ 1 คูณ 80% จะเท่ากับผลตอบแทนที่ลูกค้าได้รับ ส่วนกรณีที่ 3 ราคาปิดของสินทรัพย์อ้างอิง ณ วันสิ้นสุดอายุตราสาร เท่ากับหรือน้อยกว่าราคาเริ่มต้น ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทน 0% แต่เงินต้นยังคงอยู่ กองทุนนี้จะเป็นอีกทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสในการรับผลตอบแทนจากดัชนี Nikkei225 ตามเงื่อนไขของกองทุน และยังคงสามารถรักษาความเสี่ยงของเงินต้นได้เท่ากับระดับความเสี่ยงของกองทุนตราสารหนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า บลจ.เอ็มเอฟซีเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ตราสารหนี้ต่างประเทศ เอไอ 12 เดือน หรือ I-FIX AI12M ตั้งแต่วันนี้-25 สิงหาคมนี้ โดยเป็นกองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ และมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินแบบเต็มจำนวน (Fully Hedge) ซึ่งคาดว่าผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายที่มอบให้ผู้ถือหน่วยลงทุนอยู่ที่ประมาณ 3% ต่อปี
ทางด้าน บลจ.ฟินันซ่า กำลังเปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ 6 เดือน ชื่อ กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 6เดือน5 (FAM FIPR6M5) โดยมีอัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 2.80% ต่อปี เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 18-25 สิงหาคม 57
ส่วน บลจ.แอสเซท พลัส เตรียมเปิดเสนอขาย 2 กองทุนตราสารหนี้ คือ กองทุนเปิดแอสเซทพลัสทวีเงินออม 2 (ASP-MMF2) อายุ 6 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 2.80% ต่อปี* วันที่ 25 สิงหาคมนี้ และกองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 9 (ASP-ACFIXED9) อายุประมาณ 3 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 2.70% ต่อปี วันที่ 27 สิงหาคมนี้
บลจ.ธนชาต อยู่ระหว่างการเสนอขาย กองทุนเปิดธนชาต Fixed Income 6M74 (TFI6M74) อายุ 6 เดือน ให้ผลตอบแทนประมาณ 2.60% เริ่มเสนอขาย 20-26 สิงหาคม 2557 โดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนเงินฝากธนาคารในจีนและอินโดนีเซีย สัดส่วน 44.00% หุ้นกู้ระยะสั้นของ ธ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) / บมจ.บัตรกรุงไทย สัดส่วน 20.00% หุ้นกู้ระยะสั้นของ บจ.โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) / บจ.ไอซีบีซีลีสซิ่ง (ไทย) สัดส่วน 20.00% หุ้นกู้ระยะสั้นของ ธ.ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) / ธ.ธนชาต จำกัด (มหาชน) 16.00% โดยประมาณค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 0.1078%
ขณะที่ บลจ.กรุงศรีเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M106 (KFFIX6M106) อายุประมาณ 6 เดือน เสนอขายถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2557 ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท จ่ายผลตอบแทนประมาณ 2.60% ต่อปี