คนทุกคนเคยทำผิดพลาดกันมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่คนที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องรู้จักพิจารณาตัวเอง แล้วแก้ไขปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นจึงจะยืนหยัดก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง โจ้-นท เกริกทธิ์วณิช ประธานบริหารและเป็นผู้ก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้ Star Trader Thailand ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
แน่นนอนว่า Idol ของนักลงทุนแทบทุกคนคงหนีไม่พ้น วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) และจอร์จ โซรอส (George Soros) เพราะคนทั้งคู่ฉลาดที่จะเก็งกำไรจากโอกาสในความผันผวนของตลาด และอาจารย์โจ้ก็ได้แรงบันดาลใจจากความสำเร็จจากกูรูหุ้นทั้งคู่ มาเป็นแนวทางผสมผสานกับประสบการณ์จริงจากการทำงานของเขา จนกลายเป็นแบบฉบับเฉพาะตัว
แม้ว่าอาจารย์โจ้จะเพิ่งก้าวเข้าสู่แวดวงนักลงทุนได้ไม่นาน แต่เขาก็ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคนิคและประสบการณ์ลงทุนส่วนตัวที่น่าสนใจ เขามองว่าหลายคนใฝ่ฝันอยากเป็นนักลงทุน เพราะนอกจากจะเป็นอาชีพที่มีอิสรภาพทางการเงินและเวลาแล้ว ยังให้ผลตอบแทนสูงอีกด้วย
ทว่า ความเสี่ยงหรือโอกาสที่จะขาดทุนก็สูงขึ้นด้วยเช่นกัน เขาเชื่อว่าหากขาดความรู้ความเข้าใจในการลงทุนหลักทรัพย์ต่างๆ ในตลาดหุ้นอย่างแท้จริงแล้ว ย่อมทำให้การลงทุนเป็นลักษณะเดาสุ่มตลอดเวลา จึงมีโอกาสผิดพลาดได้เช่นกัน ดังนั้นจะดีกว่าไหมถ้าได้ผู้มีประสบการณ์มาแนะนำเคล็ดลับในการลงทุนแบบมืออาชีพ บนพื้นฐานความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องอย่างแท้จริง
ดังนั้นความเป็นกูรูหุ้นของเขาในวันนี้จึงมีเบื้องหลังที่ไม่ได้มาแบบฟลุกๆ หลังจากที่เขาเรียนจบปริญญาโทด้าน International Business Management University of Surrey ที่ประเทศอังกฤษ เขาได้มีโอกาสฝึกฝนประสบการณ์ในธุรกิจระดับโลกจากบริษัทรถยนต์ค่ายหนึ่ง และความสนใจเรื่องหุ้นของเขานั้นมีมาตั้งแต่สมัยเรียน เมื่อประสบการณ์จริงจากการทำงานผสมผสานเข้ากับการแสวงหาความรู้การลงทุนมาหลายปี จึงทำให้ภูมิด้านหุ้นของเขาเข้มข้นเป็นทวีคูณ
“ผมสนใจเรื่องหุ้นตั้งแต่อยู่มหาวิทยาลัย ความที่ชื่นชอบวิธีการลงทุนในแบบกรูระดับโลกที่เชื่อว่า ‘ในวิกฤตย่อมมีโอกาสตามมาเสมอ’ ช่วงแรกๆ ผมก็เคยทำผิดพลาดในการลงทุน แต่แนวทางดังกล่าวช่วยให้ผมพลิกฟื้นโอกาสในการลงทุนไปสู่ความสำเร็จได้ ช่วงเกิดวิกฤตราคาน้ำมันและวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ขณะนั้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนัก ส่วนตลาดหุ้นเมืองไทยก็เช่นกัน ผมจึงเริ่มศึกษาและลงทุนอย่างจริงจังตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้”
หลังจากนั้น เขาได้กระโดดมาเป็นนักลงทุนเองเต็มตัวได้ระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นก็เจอเพื่อนนักลงทุนด้วยกัน ซึ่งตอนนี้ได้กลายมาเป็นหุ้นส่วนร่วมงานกันไปแล้ว จากประสบการณ์ลงทุนที่มีทั้งได้และเสีย รวมถึงการเรียนรู้ที่จะปรับปรุงวิธีการลงทุนให้ก้าวสู่ความสำเร็จในแบบฉบับของตัวเอง ทำให้ทั้งคู่มีทัศนคติตรงกันเกี่ยวกับการเผยแพร่ความรู้เรื่องการลงทุนให้เข้าใจง่าย ฟังแล้วไม่วิชาการเกินไป และนำไปปรับใช้ได้จริง ทั้งคู่จึงเปิดโรงเรียน Star Trader Thailand ขึ้นมาเพื่อสอนนักลงทุน
“ผมว่าจริงๆ แล้วสิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่เรื่องของการหาความรู้ แต่เป็นเรื่องของการผ่านประสบการณ์จริงแล้วสามารถเรียนรู้ได้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ นักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่มักมีนิสัยชอบการท้าทาย ยิ่งเสี่ยงยิ่งอยากลอง แต่ ‘ค่าเรียนรู้’ ในการลงทุนจริงๆ มันอาจจะแพงมาก แต่จะดีกว่าไหมถ้ามีครูนำทางเพื่อบอกให้รู้ว่าเรื่องไหนไม่ควรทำผิดซ้ำอีก และจะทำอย่างไรให้ลงทุนได้กำไร เราจะไปเสียเวลากับสิ่งที่เคยผิดแล้วเพื่อเดินผิดซ้ำอีกไปทำไม เพราะหัวใจของการลงทุนในแบบของผมคือ การวิเคราะห์ตัวเอง เพื่อไม่เดินซ้ำรอยความผิดที่เคยเป็นมา แล้วเดินไปสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคง”