Good Morning News by กองทุนบัวหลวง 19/5/14
General News
• สมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์ยุโรป เปิดเผยว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในยุโรปเพิ่มขึ้น 3.6% ในเดือน เม.ย. โดยผู้ผลิตรถยนต์ในตลาดขนาดใหญ่ อาทิ ฟอร์ด เฟียต เรโนลต์ และโอเปิล มียอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่าแบรนด์ระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ตลาดรถยนต์กำลังจะฟื้นตัว หลังจากที่ยอดขายหดตัวลง 6 ปี ติดต่อกัน
• มหาวิทยาลัย Michigan รายงายว่า ดัชนีความอ่อนไหวของประชากรสหรัฐฯ (Consumer Sentiment Index) ซึ่งสะท้อนมุมมองของประชาชนสหรัฐที่มีต่อเศรษฐกิจ ลดลงสู่ 81.8 ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบกับระดับ 84.5 ในเดือน เม.ย. เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารและน้ำมัน
• ตัวเลขการเริ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 13.2% ในเดือน เม.ย. โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากคอนโดมิเนียมและอพาร์ทเมนท์
• เจ้าหน้าที่สหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรในยุโรปบรรลุข้อตกลงที่จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียมากขึ้น หากรัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งในยูเครน ในวันที่ 25 พ.ค. หลังจากรัฐบาลสหรัฐและอียูได้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียไปแล้ว 2-3 รอบ
• ธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า จีนได้ออกกฎระเบียบเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อระหว่างธนาคาร เงินฝาก และธุรกิจอื่นๆ เพื่อจำกัดความเสี่ยงทางการเงิน และหนุนภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง
• นายพลฝาง เฟิงฮุย ประธานคณะเสนาธิการของกองทัพจีน เปิดเผยว่า ทางการจีนยืนยันจะเดินหน้าขุดน้ำมันในพื้นที่พิพาทต่อไป แม้ว่าเวียดนามจะไม่พอใจ และมีการประท้วงอย่างหนักก็ตาม และได้กล่าวเตือนไปยังสหรัฐด้วยว่า "อย่าเลือกข้าง" ในปัญหาทะเลจีนใต้
• ผลการเลือกตั้งในอินเดีย ปรากฏว่า พรรค BJP ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลายในรอบ 30 ปี ส่งผลให้ นายนเรนทรา โมดี เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอินเดีย และสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้โดยไม่ต้องจับมือกับพรรคอื่น โดยจำนวนผู้มาลงคะแนนในครั้งนี้อยู่ที่ 66.38% หรือราว 551 ล้านคน จากจำนวนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทั้งหมด 814 ล้านคน สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2527
• สำนักวิจัยเลวาดา เผยผลสำรวจความคิดเห็นว่า ชาวรัสเซีย 81% โหวตอยากให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ดำรงตำแหน่งต่ออีกสมัยหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นคะแนนนิยมที่สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการสำรวจในปี 2551 เป็นต้นมา
• สศค. เปิดเผยว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 (ต.ค.56-เม.ย.57) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิทั้งสิ้น 1,075,378 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 32,316 ล้านบาท หรือ 2.9% เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าและอากรขาเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งเป็นผลจากการหดตัวของมูลค่าการนำเข้า
• ธปท. คาดว่า สินเชื่อทั้งระบบของธนาคารพาณิชย์ในปีนี้จะเติบโตประมาณ 6-8% ใกล้เคียงกับที่ธนาคารพาณิชย์ประมาณการไว้ โดยในไตรมาสแรก สินเชื่อเติบโต 9.8% ชะลอลงจากปีก่อนที่ขยายตัว 13.2% คุณภาพสินเชื่อมีแนวโน้มด้อยลง แต่ธนาคารพาณิชย์ยังมีเงินสำรองเพียงพอรองรับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และเงินกองทุนอยู่ในระดับสูง
• นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่า การเลือกตั้ง ส.ส.จะเกิดขึ้นเมื่อใด เพราะการหารือระหว่าง กกต.กับรัฐบาล 2 ครั้งที่ผ่านมา ไม่ประสบความสำเร็จ
Equity Market
• SET Index ปิดที่ 1,405.26 จุด เพิ่มขึ้น 10.05 จุด (+0.72%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 44,328.82 ล้านบาท โดยดัชนีหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากการหารือนอกรอบของวุฒิสภา ซึ่งอาจมีข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทางการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกิจ ทำให้นักลงทุนคาดหวังจะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาวิกฤติทางการเมือง
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
นักลงทุนสถาบัน 3,115.09 ล้านบาท
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 286.36 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติ -2,079.06 ล้านบาท
นักลงทุนทั่วไป -1,322.38 ล้านบาท
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วงระหว่าง -0.01% ถึง 0.00% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 97,239 ล้านบาท
General News
• สมาคมอุตสาหกรรมรถยนต์ยุโรป เปิดเผยว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในยุโรปเพิ่มขึ้น 3.6% ในเดือน เม.ย. โดยผู้ผลิตรถยนต์ในตลาดขนาดใหญ่ อาทิ ฟอร์ด เฟียต เรโนลต์ และโอเปิล มียอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่าแบรนด์ระดับพรีเมียม ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ตลาดรถยนต์กำลังจะฟื้นตัว หลังจากที่ยอดขายหดตัวลง 6 ปี ติดต่อกัน
• มหาวิทยาลัย Michigan รายงายว่า ดัชนีความอ่อนไหวของประชากรสหรัฐฯ (Consumer Sentiment Index) ซึ่งสะท้อนมุมมองของประชาชนสหรัฐที่มีต่อเศรษฐกิจ ลดลงสู่ 81.8 ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบกับระดับ 84.5 ในเดือน เม.ย. เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารและน้ำมัน
• ตัวเลขการเริ่มก่อสร้างที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 13.2% ในเดือน เม.ย. โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากคอนโดมิเนียมและอพาร์ทเมนท์
• เจ้าหน้าที่สหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรในยุโรปบรรลุข้อตกลงที่จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียมากขึ้น หากรัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งในยูเครน ในวันที่ 25 พ.ค. หลังจากรัฐบาลสหรัฐและอียูได้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียไปแล้ว 2-3 รอบ
• ธนาคารกลางจีน เปิดเผยว่า จีนได้ออกกฎระเบียบเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อระหว่างธนาคาร เงินฝาก และธุรกิจอื่นๆ เพื่อจำกัดความเสี่ยงทางการเงิน และหนุนภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง
• นายพลฝาง เฟิงฮุย ประธานคณะเสนาธิการของกองทัพจีน เปิดเผยว่า ทางการจีนยืนยันจะเดินหน้าขุดน้ำมันในพื้นที่พิพาทต่อไป แม้ว่าเวียดนามจะไม่พอใจ และมีการประท้วงอย่างหนักก็ตาม และได้กล่าวเตือนไปยังสหรัฐด้วยว่า "อย่าเลือกข้าง" ในปัญหาทะเลจีนใต้
• ผลการเลือกตั้งในอินเดีย ปรากฏว่า พรรค BJP ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลายในรอบ 30 ปี ส่งผลให้ นายนเรนทรา โมดี เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอินเดีย และสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้โดยไม่ต้องจับมือกับพรรคอื่น โดยจำนวนผู้มาลงคะแนนในครั้งนี้อยู่ที่ 66.38% หรือราว 551 ล้านคน จากจำนวนผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทั้งหมด 814 ล้านคน สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2527
• สำนักวิจัยเลวาดา เผยผลสำรวจความคิดเห็นว่า ชาวรัสเซีย 81% โหวตอยากให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ดำรงตำแหน่งต่ออีกสมัยหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นคะแนนนิยมที่สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการสำรวจในปี 2551 เป็นต้นมา
• สศค. เปิดเผยว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 (ต.ค.56-เม.ย.57) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิทั้งสิ้น 1,075,378 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 32,316 ล้านบาท หรือ 2.9% เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าและอากรขาเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งเป็นผลจากการหดตัวของมูลค่าการนำเข้า
• ธปท. คาดว่า สินเชื่อทั้งระบบของธนาคารพาณิชย์ในปีนี้จะเติบโตประมาณ 6-8% ใกล้เคียงกับที่ธนาคารพาณิชย์ประมาณการไว้ โดยในไตรมาสแรก สินเชื่อเติบโต 9.8% ชะลอลงจากปีก่อนที่ขยายตัว 13.2% คุณภาพสินเชื่อมีแนวโน้มด้อยลง แต่ธนาคารพาณิชย์ยังมีเงินสำรองเพียงพอรองรับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ และเงินกองทุนอยู่ในระดับสูง
• นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่า การเลือกตั้ง ส.ส.จะเกิดขึ้นเมื่อใด เพราะการหารือระหว่าง กกต.กับรัฐบาล 2 ครั้งที่ผ่านมา ไม่ประสบความสำเร็จ
Equity Market
• SET Index ปิดที่ 1,405.26 จุด เพิ่มขึ้น 10.05 จุด (+0.72%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 44,328.82 ล้านบาท โดยดัชนีหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากการหารือนอกรอบของวุฒิสภา ซึ่งอาจมีข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทางการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกิจ ทำให้นักลงทุนคาดหวังจะมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาวิกฤติทางการเมือง
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
นักลงทุนสถาบัน 3,115.09 ล้านบาท
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ 286.36 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติ -2,079.06 ล้านบาท
นักลงทุนทั่วไป -1,322.38 ล้านบาท
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในช่วงระหว่าง -0.01% ถึง 0.00% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 97,239 ล้านบาท
