คอลัมน์บัวหลวง Money Tips
โดยวรวรรณ ธาราภูมิ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง
ท่ามกลางข่าวสารเข้ามาท่วมหัวอย่างนี้ เราจะลงทุนหรือไม่ลงทุนอย่างไรดี เพราะหลายคนคงกำลังสับสนกับข่าวสารและความแน่นอนต่างๆ ที่อาจมีต่อการลงทุน โดยเฉพาะเมื่อโลกใกล้ตัวมากขึ้นเป็นรายวินาที ข่าวต่างๆ มีมากมาย และเปลี่ยนได้รวดเร็ว
จะทำอย่างไรไม่ให้สำลักข่าว (เรียงตามลำดับ)
1. ย่อยข่าวก่อน ข่าวอะไรไกล-ใกล้ตัว อะไรเป็นข่าว อะไรเป็นวิเคราะห์
2. ดูตนเองว่าเงินเราส่วนไหนลงทุนระยะสั้น กลาง ยาว
3. จัดลำดับน้ำหนักข่าวที่จะมีต่อการลงทุน ข่าวอะไรช่วงนี้เชื่อถือได้ วิเคราะห์ความเป็นไปได้ และผลกระทบต่อการลงทุนของเราในระยะสั้น กลาง ยาว แล้วค่อยปรับพอร์ตสั้นหากมีผล ส่วนพอร์ตกลางก็แล้วแต่กรณี สำหรับพอร์ตยาวน้อยครั้งที่ข่าวรายวันจะกระทบ
4. สรุปแนวโน้มภาพยาวๆ ที่วิเคราะห์และมองว่ามีแนวโน้มสูงที่จะเป็นเช่นนั้นแปะข้างฝาไว้ ใกล้ๆ รายการ Asset Allocation หรือเป้าหมายการจัดน้ำหนักลงทุนระยะยาวที่เรากำหนด ที่ให้แปะไว้ก็เพื่อจะได้ไม่ลืมเป้าหมายการลงทุนของเราในระยะยาวไกล และไม่ลืมมุมมองภาพกว้างในระยะยาว
มุมมองเศรษฐกิจ ตลาดเงิน ตลาดทุนภาพกว้างระยะยาวนี้มักไม่เปลี่ยนไว ยกเว้นมีปัจจัยอื่นที่มีน้ำหนักกระทบแรงมาทำให้ภาพวิเคราะห์เปลี่ยน หากมีก็เปลี่ยนที่แปะไว้ เอาอันใหม่ขึ้นไปแปะแทน
อ่านดูแล้วหลายคนคงว่าเชยมาก แปะข้างฝา อ้าว ก็จะได้เห็นง่ายๆ ไง แต่ความจริงจะแปะที่ไหนก็ได้ที่ทำให้เราเห็นบ่อยๆ อย่าไปแปะบนหน้าผากตนเองก็แล้วกัน เพราะส่องกระจกอ่านก็ต้องกลับด้าน
5. อย่าลืม Rebalancing หรือปรับสมดุลพอร์ตลงทุน กรณีที่เวลาผ่านไปแล้วทำให้สัดส่วนลงทุนเปลี่ยนไป เช่นเดิมตั้งเป้าจะมีหุ้น 40% พันธบัตร 50% ทองคำ 10% หากผ่านไปแล้วหุ้นกลายเป็น 35% พันธบัตร/ตราสารหนี้ กลายเป็น 60% ทองคำกลายเป็น 5% ก็ให้เพิ่มสัดส่วนหุ้นกับทองคำให้เท่าเป้าหมายเก่า จะโดยเพิ่มเงินใหม่ลงไปหรือขายพันธบัตร/ตราสารหนี้ออกไปก็แล้วแต่
6. ทำตนให้ชินกับข่าวสาร อย่าตื่นตูม และอย่าวิ่งแตกตื่นสนองตอบข่าวระยะสั้นๆ ด้วยการแห่ทำตามคนอื่น ไม่ว่าด้านซื้อหรือขาย โดยเฉพาะสำหรับพอร์ตระยะยาว หากเป็นพอร์ตระยะสั้นๆ ก็อาจกระทบถ้าสนองตอบช้าไป เพราะปัจจัยพื้นฐานมีผลน้อยกว่าพฤติกรรมผู้เล่นในตลาดแม้จะไม่มีเหตุผล ส่วนพอร์ตระยะกลางให้ประเมินผลให้ดีก่อนว่าควรปรับหรือไม่ ทั้งนี้ขึ้นกับว่าระยะกลางนั้นเราใช้ระยะเวลาเท่าใดกำหนด เพราะบางคนก็บอกว่า 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1-2 ปีเป็นระยะกลาง
เมื่อไม่มั่นใจ กลับมาอ่านใหม่ตั้งแต่ข้อ 1 ถึงข้อ 6
หากอ่านทวนแล้วก็ยังตัดสินใจไม่ได้ ก็มี 2 ทางเลือก คือ เลิกอ่านข่าว หรือไม่งั้นก็ล้างพอร์ต กอดเงินสดไว้ แล้วปิดไฟ เข้านอน
สรุป ถ้าเรามีสติกำกับ โอกาสชนะมีสูง ขอให้ปัญญา สติดี และโชคดีในการลงทุนค่ะ
ปัญญาดี ไม่มีสติกำกับ ก็ไม่มีประโยชน์
สติปัญญาดี บางทีก็ต้องมีโชคช่วยบ้างนิดหน่อย