xs
xsm
sm
md
lg

AIMC เชื่อธุรกิจกองทุนยังเติบโต ชี้ บลจ.ไซส์เล็กอยู่ได้ ลุยฐานนิชมาร์เกต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“วรวรรณ” นายกสมาคม บลจ. ประเมินอุตสาหกรรมกองทุนรวมยังเติบโตได้ ชี้ บลจ.ขนาดเล็กปรับสไตล์ขยับฐานลุยตลาดเฉพาะกลุ่มหรือนิชมาร์เกตเพิ่ม พร้อมมองธุรกิจกองทุนยังมีพื้นที่ให้เข้ามาตลาดได้อีกมากด้วยเช่นกัน

นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน หรือ AIMC และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง กล่าวถึงการแข่งขันในอุตสหกรรมกองทุนรวมว่า แม้ว่า บลจ.ที่อยู่ในเครือธนาคารจะมีเครือข่ายที่กว้างขวางอันเป็นข้อได้เปรียบในการทำการตลาด โดยเฉพาะเครือข่ายธนาคารแม่ที่สามารถรวบรวมเป้าหมายทางการตลาดกับ บลจ.และบริษัทประกันในเครือข่ายได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นข้อจำกัดจนทำให้ บลจ.ขนาดเล็กต้องเสียเปรียบไปทุกเรื่อง เพราะการทำให้สาธารณชนเชื่อถือใน บลจ.แต่ละแห่งในหลายๆ มิติจะเป็นคำตอบสำหรับธุรกิจจัดการกองทุนในระยะต่อไป

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมจึงควรที่จะชูนโยบายกับแนวทางบริหารกองทุน และตัวตนหรือสไตล์ที่ บลจ.เป็นให้มากขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่ให้คุณประโยชน์แก่ธุรกิจ และเป็นสิ่งที่ลูกค้าคาดหวัง โดย บลจ.ขนาดเล็กสามารถทำธุรกิจได้ดีหากขยับไปสู่การสร้างตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือ Niche Market ที่เหมาะต่อความสามารถพิเศษของตนเอง โดยแต่ละ บลจ.ไม่จำเป็นต้องวิ่งแข่งในลู่เดียวกัน หากเสียเปรียบด้านหนึ่งแต่มีจุดเด่นในอีกด้านหนึ่งก็สามารถชูขึ้นมาเป็นจุดที่เหมาะสมของตนได้ สามารถใช้เป็นกลยุทธ์ธุรกิจได้ เพราะตลาดกว้างและยังมี Untouched Area หรือพื้นที่อุตสาหกรรมกองทุนยังไม่ได้เข้าไปทำตลาดอีกมาก นอกจากนี้ ก.ล.ต.ก็มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนให้มีเครือข่ายอื่นๆ ที่สามารถใช้เป็นหน้าร้านขายกองทุนรวมได้มากขึ้น จะไม่จำกัดเฉพาะสถาบันการเงินเท่านั้นอีกด้วย

โดยอุตสาหกรรมจะยังคงมีการแข่งขันอย่างเข้มข้นระหว่าง บลจ.ด้วยกัน รวมไปถึงการแข่งขันจากผลิตภัณฑ์การเงินอื่น ได้แก่ การระดมเงินฝากของธนาคารพาณิชย์และธนาคารรัฐ โดยเฉพาะการนำผลิตภัณฑ์การเงินอื่นไปเสนอขายผ่านระบบสาขาธนาคาร เช่น หุ้นกู้ พันธบัตร ตั๋วแลกเงิน สลากออมสิน ทองคำ เป็นต้น นอกจากนี้ การแข่งขันกับธุรกิจประกันชีวิตก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ โดยเฉพาะ Annuity Products (ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่จ่ายเงินคืนรายปี) สำหรับผู้เกษียณแล้ว

“ตั้งแต่ปี 2556 รูปแบบการแข่งขันโดยใช้กลยุทธ์การตลาดแบบลด แลก แจก แถม ระหว่างบริษัทจัดการด้วยกันลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากสมาคมออกเกณฑ์ใหม่ที่ลดมูลค่าโปรโมชันลงเหลือเพียง 0.2% จากเดิม 2.0% และไม่ให้แต้มบัตรเครดิตในการซื้อกองทุนรวม รวมไปถึงผู้ลงทุนเองก็เริ่มเข้าใจและให้ความสำคัญต่อผลงานของกองทุน มากกว่าจะมุ่งไปที่โปรโมชันเพียงอย่างเดียวแบบที่เคยเป็นมาพักหนึ่ง ข้อดีของการเข้มงวดมากขึ้นในการใช้โปรโมชันมาชักจูงลูกค้าคือผู้ลงทุนเริ่มให้ความสำคัญต่อแนวทางลงทุนของแต่ละ บลจ.มากขึ้น สนใจการคัดเลือกหลักทรัพย์ในแต่ละค่ายมากขึ้น” นางวรวรรณกล่าว
    
นางวรวรรณ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ปี 2557 กองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่แล้วจะไม่สามารถเพิ่มทุน และไม่สามารถจัดตั้งกองทุนใหม่ได้ เพราะ ก.ล.ต.ให้ไปใช้โครงสร้างของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรืองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trusts : REITs) แทน ดังนั้น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่มีมูลค่าโครงการสูง โดยเฉพาะจาก บลจ.ในเครือธนาคารขนาดใหญ่น่าจะเกิดขึ้นได้เร็วกว่า REITs ที่คาดว่าจะทยอยเกิด อย่างไรก็ตาม จากภาวะการเมืองที่ยังเป็นอุปสรรคและคลี่คลายไม่ได้ จึงคาดว่าโครงการต่างๆ อาจจะชะลอไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ทั้งนี้เรามีข้อสังเกตว่า ธุรกิจธนาคารจะได้รับความกระทบกระเทือนจาก REITs และ Infrastructure Funds อยู่บ้างโดยเฉพาะในส่วนลูกหนี้สินเชื่อรายใหญ่ที่มีแนวโน้มจะหันไปใช้บริการกองทุนรวมแทน


กำลังโหลดความคิดเห็น