General News
• ส.สถิติของเยอรมนี รายงาน ยอดสั่งซื้อภาคการผลิตของเยอรมนีเดือน มี.ค. ลดลง 2.8% จากเดือน ก.พ.ที่เพิ่มขึ้น 0.9% แสดงถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ยังไม่ต่อเนื่อง
• ธ.กลางจีน เปิดเผยว่า จะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบรัดกุมและปรับแก้ไขนโยบาย เพื่อรักษาเสถียรภาพการเติบโต กระตุ้นการปฏิรูป การปรับโครงสร้าง ส่งเสริมสวัสดิการของประชาชน และป้องกันความเสี่ยง ภายใต้การใช้เครื่องมือทางการเงินให้มีความยืดหยุ่นเพิ่มมากขึ้น
• HSBC รายงาน ดัชนี PMI ภาคบริการของจีน เดือน เม.ย. ลดลงแตะ 51.4 จาก 51.9 ในเดือนก่อนหน้า โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะยังคงมีแนวโน้มการขยายตัวได้เล็กน้อยในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า
• ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบาย ธ.กลางญี่ปุ่น ระบุว่า 1) เมื่อเกิดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ภาคบริการมีแนวโน้มได้รับผลกระทบมากที่สุด 2) สถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนอาจส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เศรษฐกิจยุโรป และส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจโลก
• ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมทั้งความเป็นรัฐมนตรีของคณะรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องสิ้นสุดลง ในคดีโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เนื่องจากเป็นการกระทำการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ก้าวก่ายการโยกย้าย แต่งตั้งข้าราชการประจำ เอื้อพวกพ้อง ขาดคุณธรรมและจริยธรรม
• ครม.มีมติให้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และประกาศเดินหน้าจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยจะนัดหารือร่วมกับกกต.ในวันศุกร์นี้
• คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ปรับลดคาดการณ์ ยอดการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในปี 2557 จากเดิม 9 แสนล้านบาท เหลือ 7 แสนล้านบาท เป็นผลจากการจัดทำงบประมาณปี 2558 ที่ล่าช้า ส่งผลต่อการหยุดชะงักการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน
• ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ 1.8% จากผลกระทบของสถานการณ์ทางเมือง ทำให้ดัชนีการบริโภคภายในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าภาคธุรกิจไทยยังคงมีความแข็งแกร่ง สามารถรับมือกับความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศและความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้
• นายบัณฑิต นิจถาวร อดีตรองผู้ว่าธปท. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันเริ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองที่ชัดเจนขึ้น สะท้อนผ่าน 3 ช่องทาง คือ 1) ความเชื่อมั่นที่มีผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ 2) ความไม่แน่นอนและขาดความต่อเนื่องของนโยบาย กระทบต่อการชะลอการลงทุน 3) ความสามารถในการใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ลดลง
• ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.ภัทร คาดว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้แค่ 1.1% ลดลงจากเดิมที่คาดไว้ 2% เนื่องจากผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้มองว่าจะยังไม่มีรัฐบาลใหม่เข้ามาทำหน้าที่ตัดสินใจงานสำคัญต่าง ๆ และปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อ ยังคงทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
Equity Market
• SET Index ปิดที่ 1,402.61 จุด ลดลง 1.40 จุด (-0.10%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 32,829.21 ล้านบาท ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตามตลาดในภูมิภาค จากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญให้รักษาการนายกรัฐมนตรีและ 9 รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง สิ้นสุดสภาพการทำงาน อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองจะยังคงเป็นประเด็นกดดันตลาดต่อไป
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
นักลงทุนสถาบัน -159.15 ล้านบาท
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -212.86 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติ -2,018.51 ล้านบาท
นักลงทุนทั่วไป 2,390.51 ล้านบาท
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่าง -0.07% ถึง 0.00% ด้วยมูล ค่าการซื้อขายรวม 88,141.34 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 3 ปี มูลค่า 25,000 ล้านบาท
• ส.สถิติของเยอรมนี รายงาน ยอดสั่งซื้อภาคการผลิตของเยอรมนีเดือน มี.ค. ลดลง 2.8% จากเดือน ก.พ.ที่เพิ่มขึ้น 0.9% แสดงถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ยังไม่ต่อเนื่อง
• ธ.กลางจีน เปิดเผยว่า จะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบรัดกุมและปรับแก้ไขนโยบาย เพื่อรักษาเสถียรภาพการเติบโต กระตุ้นการปฏิรูป การปรับโครงสร้าง ส่งเสริมสวัสดิการของประชาชน และป้องกันความเสี่ยง ภายใต้การใช้เครื่องมือทางการเงินให้มีความยืดหยุ่นเพิ่มมากขึ้น
• HSBC รายงาน ดัชนี PMI ภาคบริการของจีน เดือน เม.ย. ลดลงแตะ 51.4 จาก 51.9 ในเดือนก่อนหน้า โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะยังคงมีแนวโน้มการขยายตัวได้เล็กน้อยในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า
• ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบาย ธ.กลางญี่ปุ่น ระบุว่า 1) เมื่อเกิดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ภาคบริการมีแนวโน้มได้รับผลกระทบมากที่สุด 2) สถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนอาจส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เศรษฐกิจยุโรป และส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจโลก
• ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวมทั้งความเป็นรัฐมนตรีของคณะรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องสิ้นสุดลง ในคดีโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เนื่องจากเป็นการกระทำการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ก้าวก่ายการโยกย้าย แต่งตั้งข้าราชการประจำ เอื้อพวกพ้อง ขาดคุณธรรมและจริยธรรม
• ครม.มีมติให้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี และประกาศเดินหน้าจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยจะนัดหารือร่วมกับกกต.ในวันศุกร์นี้
• คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ปรับลดคาดการณ์ ยอดการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในปี 2557 จากเดิม 9 แสนล้านบาท เหลือ 7 แสนล้านบาท เป็นผลจากการจัดทำงบประมาณปี 2558 ที่ล่าช้า ส่งผลต่อการหยุดชะงักการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน
• ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ 1.8% จากผลกระทบของสถานการณ์ทางเมือง ทำให้ดัชนีการบริโภคภายในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อว่าภาคธุรกิจไทยยังคงมีความแข็งแกร่ง สามารถรับมือกับความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศและความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้
• นายบัณฑิต นิจถาวร อดีตรองผู้ว่าธปท. กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันเริ่มได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองที่ชัดเจนขึ้น สะท้อนผ่าน 3 ช่องทาง คือ 1) ความเชื่อมั่นที่มีผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ 2) ความไม่แน่นอนและขาดความต่อเนื่องของนโยบาย กระทบต่อการชะลอการลงทุน 3) ความสามารถในการใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ลดลง
• ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.ภัทร คาดว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้แค่ 1.1% ลดลงจากเดิมที่คาดไว้ 2% เนื่องจากผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้มองว่าจะยังไม่มีรัฐบาลใหม่เข้ามาทำหน้าที่ตัดสินใจงานสำคัญต่าง ๆ และปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อ ยังคงทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
Equity Market
• SET Index ปิดที่ 1,402.61 จุด ลดลง 1.40 จุด (-0.10%) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 32,829.21 ล้านบาท ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตามตลาดในภูมิภาค จากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญให้รักษาการนายกรัฐมนตรีและ 9 รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง สิ้นสุดสภาพการทำงาน อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทางการเมืองจะยังคงเป็นประเด็นกดดันตลาดต่อไป
สรุปยอดสุทธิการซื้อขายของแต่ละกลุ่ม
นักลงทุนสถาบัน -159.15 ล้านบาท
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -212.86 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติ -2,018.51 ล้านบาท
นักลงทุนทั่วไป 2,390.51 ล้านบาท
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงในช่วงระหว่าง -0.07% ถึง 0.00% ด้วยมูล ค่าการซื้อขายรวม 88,141.34 ล้านบาท สำหรับวันนี้มีประมูลพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย อายุ 3 ปี มูลค่า 25,000 ล้านบาท
