โฟกัส “เกาหลีใต้” ใครๆ ก็ว่าเขามาแรง

เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันขณะนี้จะเห็นได้ว่าเริ่มมีการเติบโตขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศหลักอย่างสหรัฐฯ และยุโรปที่ดีขึ้นมา แต่เศรษฐกิจโลกก็ยังไม่ได้เติบโตในอัตราที่สูงเหมือนช่วงที่ผ่านมาในอดีต แม้ว่าในขณะนี้เราจะเห็นว่าเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วเติบโตขึ้นมาจนเป็นที่น่าสนใจลงทุน แต่จะเห็นได้ว่าภูมิภาคหนึ่งที่ยังมีการเติบโตและมีความน่าใจลงทุนอยู่เสมอ นั่นคือ ภูมิภาคเอเชีย ที่มีการลงทุนและมีการที่เติบโตในระดับสูงต่อเนื่องมาหลายปี

ตอนนี้กระแสการลงทุนในต่างประเทศก็ยังคงเป็นภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเอเชียเหนือ อย่าง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ซึ่งมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ตลาดหุ้นมีทิศทางให้ผลตอบแทนที่สูง จึงมีกองทุนรวมที่ออกไปลงทุนในภูมิภาคเอเชียเหนือหลายกองทุน ด้วยกัน เป็นโอกาสลงทุนที่น่าสนใจนอกเหนือจากตลาดหุ้นไทย ที่รับปัจจัยกดดันจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

กลุ่มประเทศเอเชียเหนือมีเศรษฐกิจมีการเชื่อมโยงกับการฟื้นตัวของประเทศพัฒนาแล้ว โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคการส่งออกอย่างสูง ขณะเดียวกันราคาหุ้นของกลุ่มประเทศดังกล่าวยังถูกและน่าลงทุน อย่างเช่นประเทศญี่ปุ่น ที่เศรษฐกิจมีการกระตุ้นจากรัฐบาล ที่ส่งผลให้ภาคการบริโภค การลงทุนกลับมาเติบโตขึ้น ส่วนประเทศจีนเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง แต่รัฐบาลจีนยังสามารถที่จะดำเนินนโยบายการเงินและการคลังแบบผ่อนคลายเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจชะลอตัวมากเกินไป ตลาดหุ้นจีนจึงเป็นตลาดที่ยังน่าลงทุนสูง หากทิศทางตลาดปรับตัวเป็นขาขึ้น

อีกประเทศหนึ่งที่ขณะนี้กำลังได้รับความสนใจมาก ก็คือประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งจากการฟื้นตัวของประเทศใหญ่อย่างสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลดีต่อภาคการส่งออกของเกาหลีใต้ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้จึงมีแนวโน้มเติบโตและให้ผลตอบแทนสูง มีบริษัทชั้นนำของประเทศเกาหลีเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีและมีขีดความสามารถแข่งขันระดับโลก สัดส่วนการส่งออกเกาหลีมีแนวโน้มที่สูงขึ้นตามการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก

ภาคการส่งออกของเกาหลีใต้คิดเป็นสัดส่วนถึง 57% ของ GDP ซึ่ง GDP ของประเทศที่พัฒนาแล้วเติบโตสูงขึ้น แสดงถึงสัดส่วนการนำเข้าสินค้าจากเกาหลีของประเทศเหล่านี้จะสูงขึ้น เช่นกันสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ สินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (25%), ปิโตรเคมี (21%), อุปกรณ์การผลิต (16%) และยานยนต์ (13%) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์โดยตรงในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น

ด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยี มีส่วนแบ่งทางการตลาดของตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอันดับ 1 ของโลก โดดเด่นด้านเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่, อุปกรณ์ชิ้นส่วน Semi-conductors และ Display (จอภาพ LCD ใช้กับ Tablet, Smart Phone, TV) Brand สินค้าของเกาหลีโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เช่น Samsung, LG, Hyundai และยังมีการลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนให้ถึง 5% ของ GDP ภายใน 3 ปีข้างหน้า

บริษัทผลิตรถยนต์อย่าง Hyundai & KIA Motors มีส่วนแบ่งทางการตลาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ผู้นำทางด้านการผลิตเรือเพื่อการพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุด กว่า 50% ของการผลิตเรือเพื่อการพาณิชย์มาจากประเทศเกาหลีขีดความสามารถในการผลิตอุปกรณ์อาวุธสงครามระดับสูง (รถถัง ปืน เรือรบ เครื่องบิน และยานอวกาศ) โดยประเทศที่นำเข้าอาวุธจากเกาหลี ได้แก่ รัสเซีย ตุรกี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น

ขณะเดียวกัน ประเทศเกาหลีใต้ตั้งเป้าหมายที่ให้เศรษฐกิจเติบโต 4% ภายใต้แผน ‘Three-Year Economic Innovation Plan’ เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศโดยสร้างเศรษฐกิจผ่านนวัตกรรมใหม่ (Smart Convergence) เร่งการค้นหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันผ่านนโยบาย Smart Convergence เช่น ลงทุนใน R&D เป็น 5% ของ GDP และสร้างเมือง Innovation City 17 เมือง ซึ่งคาดการณ์ธนาคารกลางเกาหลีคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.50% ในช่วงครึ่งปีแรกเพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ปรับปรุงโครงสร้างการลงทุน โดยการเร่งการลงทุนของบริษัทโดยการผ่อนคลายกฎระเบียบการลงทุน และการสนับสนุนการลดภาษีให้บริษัทขนาดเล็กที่ลงทุนไม่เกิน KRW15 ล้าน (450,000 บาท) ถึงปี 2557 รวมทั้งสนับสนุนเงินลงทุนแก่บริษัทขนาดเล็กและกลางจำนวน 28,000 ล้านบาททุกๆ ปี

Mr. Park Ryan หัวหน้าทีมวิเคราะห์ตราสารทุน ประเทศเกาหลี Mirae Asset Global Investments หลายๆ บริษัทสัญชาติเกาหลีได้พัฒนาความสามารถการแข่งขันในระดับโลก และแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้ ทำให้เชื่อว่าการลงทุนในหุ้นบริษัทสัญชาติเกาหลีจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากในปัจจุบัน แม้ว่าประเทศเกาหลีจะถูกจัดอยู่ในประเทศ emerging market แต่ที่ผ่านมาเศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบน้อยมากจากปัจจัยภายนอก เนื่องจากความหลากหลายและสมดุลของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม

สำนักวิจัยของบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำหลายแห่งคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นเกาหลีจะสร้างผลตอบแทนในเกณฑ์เฉลี่ยได้ประมาณ 18% (Bloomberg consensus) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ภาคการส่งออกขยายตัวตามเศรษฐกิจโลก

ก่อนหน้านี้เราได้เห็นความน่าสนใจของตลาดหุ้นจีนมาแล้ว และตามมาด้วยความน่าสนใจของตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่กองทุนรวมในไทยไปลงทุนกัน และขณะนี้ก็มาถึงความน่าสนใจของประเทศเกาหลีใต้อีกประเทศหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย ดังนั้น โอกาสการลงทุนของหุ้นต่างประเทศตอนนี้จึงมีให้เห็น นอกเหนือจากตลาดประเทศยักษ์ใหญ่ อย่างสหรัฐฯ และยุโรป