บลจ.ไทยพาณิชย์เผยกองทุน TRUEIF สุดฮอต ผู้ประกอบการ 3 รายสนทำสัญญาเช่าเพิ่ม ระบุผู้เช่าใหม่จะทำให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นหลังค่าใช้จ่ายทุกอย่างครอบคลุมจากสัญญาเช่าจากทรูแล้ว พร้อมเตรียมปันผลงวดแรกหลังไตรมาส 1 ปีนี้
นายเมธี วินิชบุตร ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการกลุ่มกองทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โทรคมนาคม ทรูโกรท (TRUEIF) เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุน TRUEIF ได้รับความสนใจจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายอื่นๆ เพิ่มเติม ภายหลัง บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ได้ทำข้อตกลงขอดูรายละเอียดทรัพย์สินของกองทุน ซึ่งประกอบด้วยเสาโทรคมนาคมจำนวน 6,000 ต้น และสายไฟเบอร์ออปติก โดยผู้ประกอบการที่สนใจเพิ่มขึ้นมี 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด ซึ่งทั้ง 3 บริษัทดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเช่าทรัพย์สินจากกองทุน TRUEIF
ทั้งนี้ การมีผู้เช่ารายใหม่จะส่งผลดีสำหรับนักลงทุน ซึ่งกองทุนจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการเพิ่มผู้เช่าค่อนข้างต่ำ เนื่องจากค่าเช่าที่คิดกับผู้เช่าหลักซึ่งคือกลุ่มทรูได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของการใช้ทรัพย์สินไปแล้ว เมื่อกองทุนมีผู้เช่าเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้ที่ได้รับเพิ่มขึ้นจะแปลงเป็นผลกำไรและกระแสเงินสดได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ กองทุน TRUEIF มีรายได้หลักจากสัญญาจัดหาผลประโยชน์ระยะยาวที่ให้ความแน่นอนในการสร้างกระแสเงินสดให้แก่กองทุน โดยในเบื้องต้นรายได้หลักของ TRUEIF จะมาจากสิทธิในกระแสเงินสดสุทธิจากค่าเช่าสินทรัพย์โทรคมนาคม จาก CAT เป็นเวลา 12 ปี และจากค่าเช่าของกลุ่มทรูตามสัญญาเช่าทรัพย์สินระยะยาว ทำให้กองทุนมีรายได้สม่ำเสมอ
ปัจจุบันกองทุนมีรายได้ค่าเช่า รายรับล่วงหน้า และสิทธิในกระแสเงินสดสุทธิจากการซื้อรายได้เดือนละประมาณ 464 ล้านบาท ซึ่งรายรับดังกล่าวมาจากการที่มีกลุ่มทรูเช่าใช้ทรัพย์สินของกองทุนแต่เพียงผู้เดียวในขณะนี้ ทั้งนี้ กองทุนจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลครั้งแรกภายหลังจากปิดงบการเงินงวดไตรมาส 1 นี้
นายเมธี วินิชบุตร ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการกลุ่มกองทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โทรคมนาคม ทรูโกรท (TRUEIF) เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุน TRUEIF ได้รับความสนใจจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายอื่นๆ เพิ่มเติม ภายหลัง บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ได้ทำข้อตกลงขอดูรายละเอียดทรัพย์สินของกองทุน ซึ่งประกอบด้วยเสาโทรคมนาคมจำนวน 6,000 ต้น และสายไฟเบอร์ออปติก โดยผู้ประกอบการที่สนใจเพิ่มขึ้นมี 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท อินเตอร์ลิงค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด ซึ่งทั้ง 3 บริษัทดังกล่าวอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเช่าทรัพย์สินจากกองทุน TRUEIF
ทั้งนี้ การมีผู้เช่ารายใหม่จะส่งผลดีสำหรับนักลงทุน ซึ่งกองทุนจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการเพิ่มผู้เช่าค่อนข้างต่ำ เนื่องจากค่าเช่าที่คิดกับผู้เช่าหลักซึ่งคือกลุ่มทรูได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของการใช้ทรัพย์สินไปแล้ว เมื่อกองทุนมีผู้เช่าเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้ที่ได้รับเพิ่มขึ้นจะแปลงเป็นผลกำไรและกระแสเงินสดได้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ กองทุน TRUEIF มีรายได้หลักจากสัญญาจัดหาผลประโยชน์ระยะยาวที่ให้ความแน่นอนในการสร้างกระแสเงินสดให้แก่กองทุน โดยในเบื้องต้นรายได้หลักของ TRUEIF จะมาจากสิทธิในกระแสเงินสดสุทธิจากค่าเช่าสินทรัพย์โทรคมนาคม จาก CAT เป็นเวลา 12 ปี และจากค่าเช่าของกลุ่มทรูตามสัญญาเช่าทรัพย์สินระยะยาว ทำให้กองทุนมีรายได้สม่ำเสมอ
ปัจจุบันกองทุนมีรายได้ค่าเช่า รายรับล่วงหน้า และสิทธิในกระแสเงินสดสุทธิจากการซื้อรายได้เดือนละประมาณ 464 ล้านบาท ซึ่งรายรับดังกล่าวมาจากการที่มีกลุ่มทรูเช่าใช้ทรัพย์สินของกองทุนแต่เพียงผู้เดียวในขณะนี้ ทั้งนี้ กองทุนจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลครั้งแรกภายหลังจากปิดงบการเงินงวดไตรมาส 1 นี้