ดีเดย์ขายกองทรูโกรท 7 หมื่นล้าน ธันวาคมนี้ เน้นลงทุนกรรมสิทธิ์เสาสัญญาณ 6 พันต้น พร้อมระบบใยแก้วนำแสง ผู้บริหารทรูยันข้อพิพาทกรณีเสาสัญญาณกับ กสท ไม่กระทบกองทุน เล็งนำเงินล้างขาดทุนสะสม และลงทุนเพิ่ม มั่นใจยอดจองซื้อเต็มโครงการ ด้าน บลจ.ไทยพาณิชย์ ระบุธุรกิจการสื่อสารโตสูง ผู้ถือหน่วยมีลุ้นผลตอบแทนเพิ่มขึ้น
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูโกรท (TRUEGIF) ซึ่งเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ขนาดกองทุนประมาณ 70000 ล้านบาท โดยขณะนี้กองทุนอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และคาดว่าจะเปิดขายให้ประชาชนทั่วไปได้ในเดือนธันวาคมนี้
“เรามองเห็นโอกาสเติบโตในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมขของประเทศไทยที่กำลังอยู่ในช่วงเปิดเสรี ทำให้เกิดความต้องการใช้โครางสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น จึงเป็นช่วงที่เหมาะต่อการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เพื่อรองรับการใช้อุปกรณ์ร่วมกัน และลดต้นทุนของผู้ประกอบการ ทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น จากรายได้จากผลกำไรของกองทุน”
ด้าน นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวแล้ว ทางบริษัทจำเงินที่ได้จากการขายหน่วยไปใช้ใน 3 ส่วน ได้แก่ การลดหนี้ของบริษัท การลงทุนในเสาสัญญาณ 6,000 ต้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ส่วนในเรื่องเสาสัญญาณที่มีปัญหาอยู่นั้นกองทุนนี้ไม่ได้มีเกี่ยวข้องกับเรื่องเสาสัญญาณที่มีกรณีอยู่ ซึ่งกองทุนที่จัดตั้งขึ้นนี้ มองว่าเป็นความต้องการให้ผู้ให้บริการรายอื่นได้เข้ามาเช่าเสาสัญญาณแทนการสร้างใหม่ได้ และเมื่อมีผู้มาเช่าก็ส่งผลให้กองทุนมีอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนี้ ยังกล่าวว่าเนื่องจากเป็นกองทุนที่ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนถูกตั้งขึ้นเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่ปกติต่างๆ ดังนั้น มั่นใจว่ากองทุนจะสามารถได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ จากศักายภาพในการสร้างรายได้ ซึ่งจากการโรดโชว์ต่างๆ เชื่อว่ากองทุนจะสามารถขายได้หมดอย่างแน่นอน
นางโชติกา กล่าวว่า กองทุนทรูโกรท เบื้องต้นจะทำการลงทุนในเสาโทรคมนาคม ระบบใยแก้วนำแสง และอุปกรณ์สื่อสัญญาณ และระบบรอดแบรนด์ในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด โดนกลุ่มทรูเป็นผู้สนับสนุนการก่อตั้งกองทุน และโอนทรัพย์สิน และสิทธิในการรับประโยชน์จากรายได้สุทธิของสินทรัพย์ของกลุ่มทรูให้แก่กองทุน และกลุ่มทรูยังเป็นผู้เช่า และบริหารจัดการทรัพย์สิน และถือหุ้นในกองทุนอยู่ไม่ต่ำกว่า 18%
โดยสินทรัพย์ที่นำเข้ากองทุน ได้แก่ กรรมสิทธิ์ในเสาโทรคมนาคม จำนวน 6,000 เสา กรรมสิทธิ์ในระบบในใยแก้วนำแสงหลัก และอุปกรณระบบสื่อสัญญาณที่เกี่ยวข้องความยาว 5,112 กิโลเมตร และระบบรอดแบรนด์ในเขตพื่นที่ต่างจังหวัด จำนวน 1.2 ล้านพอร์ต และสิทธิในการรับประโยชน์จากรายได้ค่าเช่าในเสาโทรคมนาคม ระบบใยแก้วนำแสง และอุปกรณ์ระบบสื่อสัญญาณ โดยคาดว่าในปี 2557 กองทุนจะมีปันผลแก่ผู้ถือหน่วยประมาณ 97% จากการลงทุนสุทธิ เป็นรายไตรมาส และ 90% ของค่าเช่ารับล่วงหน้า จำนวน 1243 ล้านบาท จากกลุ่มทรูซึ่งเป็นผู้เช่าหลัก กองทุนไม่มีอายุโครงการ ทั้งนี้ กองทุนทรูจีไอเอฟ อยู่ระหว่างรออนุมัติจาก ก.ล.ต. แต่คาดว่ากองทุนน่าจะเปิดขายได้ในช่วงเดือนธันวาคม
นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูโกรท (TRUEGIF) ซึ่งเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ขนาดกองทุนประมาณ 70000 ล้านบาท โดยขณะนี้กองทุนอยู่ระหว่างการขออนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และคาดว่าจะเปิดขายให้ประชาชนทั่วไปได้ในเดือนธันวาคมนี้
“เรามองเห็นโอกาสเติบโตในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมขของประเทศไทยที่กำลังอยู่ในช่วงเปิดเสรี ทำให้เกิดความต้องการใช้โครางสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น จึงเป็นช่วงที่เหมาะต่อการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เพื่อรองรับการใช้อุปกรณ์ร่วมกัน และลดต้นทุนของผู้ประกอบการ ทำให้ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น จากรายได้จากผลกำไรของกองทุน”
ด้าน นายนพปฎล เดชอุดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวแล้ว ทางบริษัทจำเงินที่ได้จากการขายหน่วยไปใช้ใน 3 ส่วน ได้แก่ การลดหนี้ของบริษัท การลงทุนในเสาสัญญาณ 6,000 ต้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ส่วนในเรื่องเสาสัญญาณที่มีปัญหาอยู่นั้นกองทุนนี้ไม่ได้มีเกี่ยวข้องกับเรื่องเสาสัญญาณที่มีกรณีอยู่ ซึ่งกองทุนที่จัดตั้งขึ้นนี้ มองว่าเป็นความต้องการให้ผู้ให้บริการรายอื่นได้เข้ามาเช่าเสาสัญญาณแทนการสร้างใหม่ได้ และเมื่อมีผู้มาเช่าก็ส่งผลให้กองทุนมีอัตราผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนี้ ยังกล่าวว่าเนื่องจากเป็นกองทุนที่ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนถูกตั้งขึ้นเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่ปกติต่างๆ ดังนั้น มั่นใจว่ากองทุนจะสามารถได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ จากศักายภาพในการสร้างรายได้ ซึ่งจากการโรดโชว์ต่างๆ เชื่อว่ากองทุนจะสามารถขายได้หมดอย่างแน่นอน
นางโชติกา กล่าวว่า กองทุนทรูโกรท เบื้องต้นจะทำการลงทุนในเสาโทรคมนาคม ระบบใยแก้วนำแสง และอุปกรณ์สื่อสัญญาณ และระบบรอดแบรนด์ในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด โดนกลุ่มทรูเป็นผู้สนับสนุนการก่อตั้งกองทุน และโอนทรัพย์สิน และสิทธิในการรับประโยชน์จากรายได้สุทธิของสินทรัพย์ของกลุ่มทรูให้แก่กองทุน และกลุ่มทรูยังเป็นผู้เช่า และบริหารจัดการทรัพย์สิน และถือหุ้นในกองทุนอยู่ไม่ต่ำกว่า 18%
โดยสินทรัพย์ที่นำเข้ากองทุน ได้แก่ กรรมสิทธิ์ในเสาโทรคมนาคม จำนวน 6,000 เสา กรรมสิทธิ์ในระบบในใยแก้วนำแสงหลัก และอุปกรณระบบสื่อสัญญาณที่เกี่ยวข้องความยาว 5,112 กิโลเมตร และระบบรอดแบรนด์ในเขตพื่นที่ต่างจังหวัด จำนวน 1.2 ล้านพอร์ต และสิทธิในการรับประโยชน์จากรายได้ค่าเช่าในเสาโทรคมนาคม ระบบใยแก้วนำแสง และอุปกรณ์ระบบสื่อสัญญาณ โดยคาดว่าในปี 2557 กองทุนจะมีปันผลแก่ผู้ถือหน่วยประมาณ 97% จากการลงทุนสุทธิ เป็นรายไตรมาส และ 90% ของค่าเช่ารับล่วงหน้า จำนวน 1243 ล้านบาท จากกลุ่มทรูซึ่งเป็นผู้เช่าหลัก กองทุนไม่มีอายุโครงการ ทั้งนี้ กองทุนทรูจีไอเอฟ อยู่ระหว่างรออนุมัติจาก ก.ล.ต. แต่คาดว่ากองทุนน่าจะเปิดขายได้ในช่วงเดือนธันวาคม
