ทิสโก้ เวลธ์ ระบุหุ้นจีนน่าสนใจลงทุน หลังรัฐบาลเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนความเชื่อมั่นการลงทุนต่อเนื่องดันดัชนีหุ้นปรับขึ้น 3 วันติด พร้อมชู “กองทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น” ตอบโจทย์นักลงทุนเปิดโอกาสรับผลตอบแทนไม่จำกัด
รายงานข่าวจากฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ทิสโก้ เวลธ์ (TISCO Wealth) ระบุว่า การลงทุนในตลาดหุ้นจีนยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจลงทุนอันดับต้นๆ ในแง่ราคาหุ้นที่ถูกที่สุดอยู่ในขณะนี้ โดยหุ้นจีนมี PE ต่ำที่ระดับ 6 เท่า หรือเท่ากับช่วงเกิดวิกฤตสหรัฐอเมริกา และวิกฤตยุโรป ทั้งนี้ รัฐบาลจีนตั้งเป้าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ไว้ที่ 7.5%
โดยตั้งแต่ต้นปีตลาดหุ้นจีนได้ซึมซับข่าวร้าย หลังโดนกระหน่ำทั้งเรื่องหุ้นกู้บริษัทเอกชนผิดนัดชำระหนี้ การปล่อยสินเชื่อธนาคารเงา และล่าสุดตัวเลขภาคการผลิตเดือนกุมภาพันธ์มีการลดลงต่อเนื่อง ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่ารัฐบาลต้องอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ มิฉะนั้นการเติบโตทางเศรษฐกิจจะไม่ได้ตามเป้า ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับรัฐบาลถ้าเศรษฐกิจเติบโตต่ำกว่าเป้าหมายเนื่องจากจะกระทบต่ออัตราว่างงานและการบริโภคภายในประเทศของจีนเอง
โดยเหตุนักวิเคราะห์เชื่อมั่นว่าน่าจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ เพราะรัฐบาลกลางมีเงินเหลือมากเพียงพอแต่รอจังหวะลงมือที่เหมาะสม โดยคาดว่ารัฐบาลจีนอาจจะเริ่มจากการส่งเสริมการลงทุนก่อนเนื่องจากรัฐบาลจีนยังมีหนี้สาธารณะอยู่น้อย แต่หากได้ผลช้ารัฐบาลจีนยังมีนโยบายการเงินที่สามารถผ่อนคลายได้อีก เช่นการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ การกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ลดการตั้งสำรองหากมีการปล่อยสินเชื่อ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นักลงทุนเริ่มทยอยเข้าซื้อหุ้นจีนอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากตอนนี้ดัชนี Hang Seng China Enterprise หรือ H-Share ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 วันติด ซึ่งบางวันมีการปรับขึ้นสวนทิศทางตลาดอื่น
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงในการลงทุนตลาดหุ้นได้มองว่าน่าจะเป็นโอกาสเข้าลงทุน เพราะหากตลาดหุ้นจีนกลับมายืนที่ระดับดัชนีเมื่อปลายปีที่แล้วคือประมาณ 11,000 จุด เท่ากับมีโอกาสได้ผลตอบแทนมากกว่า 14% ซึ่งหากภาพการกระตุ้นการลงทุนของรัฐบาลทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นในระยะยาวตลาดหุ้นจีนจะมีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากที่สุด เพราะตลาดหุ้นจีนซื้อขายในระดับ PE ต่ำมาต่อเนื่องมากว่า 3 ปี เพราะดัชนีราคาหุ้นแกว่งผันผวน ในขณะที่อัตราเติบโตของกำไรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 14% ต่อปี อีกทั้งระยะหลังนักลงทุนขายหุ้นจีนออกไปมาก ดังนั้นคาดว่านักลงทุนน่าจะมีการปรับพอร์ตการลงทุนมาเข้าตลาดจีนเพิ่มขึ้น
โดยมองว่าตลาดหุ้นที่น่าจะถูกขายออกคือ สหรัฐฯ และยุโรป เนื่องจากราคาหุ้นทำสถิติใหม่เพิ่มขึ้นตลอด จนทำให้ตอนนี้ PE ตลาดของสหรัฐฯ และยุโรปอยู่ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยแล้ว ผู้ลงทุนควรขายออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง
สำหรับผู้ลงทุนที่เริ่มมั่นใจแต่ยังรับความเสี่ยงในการลงทุนในตลาดหุ้นจีนไม่ค่อยได้ แนะนำให้ลงทุนใน “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น” ที่มีกลไกป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดผันผวน แต่เปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถรับผลตอบแทนได้สอดคล้องไปตามการปรับตัวขึ้นของดัชนีหุ้นจีน คล้ายกับการลงทุนในตลาดหุ้น แต่เมื่อหุ้นตกกองทุนยังคงรักษาเงินต้นไว้ไม่ให้ตกลงตามตลาดหุ้น เป็นผลจากนโยบายลงทุนของกองทุนที่จะเอาเงินส่วนใหญ่ลงทุนกับหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทที่มีคุณภาพดีได้เครดิตเรตติ้งประมาณ A- ขึ้นไป ระยะเวลาลงทุน 2 ปี ซึ่งจะมีดอกเบี้ยเติบโตเท่าเงินต้นของกองทุน
ส่วนที่สองคือส่วนที่เหลือจากก้อนแรกกองทุนเอาไปซื้อออปชันที่จะได้กำไรเมื่อหุ้นขึ้นแต่จะไม่มีราคาถ้าหุ้นตก ดังนั้นส่วนนี้จึงมองได้ว่าเป็นส่วนที่จะสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะถ้าทำกับการลงทุน เนื่องจากหุ้นจีนซึ่งมองว่ามีราคาที่ถูกกว่าปัจจัยพื้นฐานค่อนข้างมาก